food Mthaivideo ข้อควรระวัง ตู้เย็น อาหาร

ข้อคววรู้! อาหาร 15 ชนิดที่เราไม่ควรนำไปแช่ตู้เย็น เด็ดขาด!!!!

Home / สุขภาพทั่วไป / ข้อคววรู้! อาหาร 15 ชนิดที่เราไม่ควรนำไปแช่ตู้เย็น เด็ดขาด!!!!

ทุกครั้งที่เราออกไปซื้อของกินหรือผักผลไม้เข้าบ้าน เอะอะก็ต้องแช่ตู้เย็นทุกที… พอเอาออกมาอีกที มันก็ไม่อร่อยแล้วอ่ะ เรามักจะทำแบบนี้เพราะกลัวมันเสีย เมืองไทยเป็นเมืองร้อนก็ต้องเก็บของพวกนี้ไว้ในที่เย็นสิ จะได้เสียช้าลงไง? มันก็ใช่อยู่นะ ที่บ้านเราเป็นเมืองร้อน แต่ของบางอย่างยิ่งแช่ตู้เย็นก็ยิ่งทำให้เสียรสชาติ เผลอๆ อาจจะทำลายสารอาหารที่อยู่ในผักผลไม้จนหมดเลยก็เป็นไปได้นะ

อาหาร ที่ไม่ควรนำไปแช่ตู้เย็น

1. มะเขือเทศ

อันดับแรกนี้ยิ่งแช่ยิ่งเสียรสชาติและเนื้อของมะเขือเทศก็จะเละ ดังนั้นต่อให้คุณซื้อมันเขือเทศที่ยังไม่สุกเต็มที่มา พอนำมาแช่ตู้เย็น ยังไงก็เละอยู่ดี รู้อย่างงี้แล้ว รีบเอามะเขือเทศออกจาตู้เย็นเลยนะคะ แล้วทิ้งไว้ 24 ชั่วโมง เท่านี้รสชาติและผิวของมะเขือเทศก็จะมาเหมือนเดิแล้ว

2. แตงโม

แตงโมเย็นๆ นี่แหละอร่อยที่สุดแล้ว แต่เพื่อนๆ รู้ไหมว่า สำหรับผักผลไม้อื่นๆ ความร้อนสามารถทำให้สูญเสียสารต้านอนุมูลอิสระได้ แต่สำหรับแตงโมการแช่ตู้เย็นต่างหากล่ะ ที่จะทำให้สูญเสียสารต้านอนุมูลอิสระ น่าเสียดายนะถ้าสูญเสียสิ่งที่มีประโยชน์ต่อร่างกายไป

3. มันฝรั่ง

สำหรับมันฝรั่ง เพื่อนๆ บางคนอาจจะคิดว่าการรักษเนื้อให้แน่นเหมือนเดิมได้ ต้องแช่ตู้เย็น แต่พอเอาออกมาจากตู้เย็นผลกลับตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิงเนื้อของมันฝรั่งกลับเป็นเนื้อทรายรุ่ยและเมื่อนำไปประกอบอาหารรสชาติก็ไม่เหมือนเดิมเลย ทางที่ดีอย่าเก็บไว้ในตู้เย็นจะดีกว่านะ

4. หัวหอม

การนำหัวหอมไปแช่ตู้เย็นผลที่ได้คือ มันจะแห้ง เผลอๆ แช่ไปนานๆ มันก็จะเหี่ยวไปเลย บางคนอาจแก้ปัญหาด้วยการแกะเปลือกออก เพื่อใช้เฉพาะด้านใน ปรากฏว่า เนื้อด้านในเหลวเละซะแล้ว ดังนั้นควรเก็บไว้ข้างนอกตู้เย็นและไม่ให้โดนแสงแดด เพราะมันตะแตกหน่ออย่างรวดเร็ว

5. เมล็ดกาแฟ

อย่ากลัวว่าเมล็ดกาแฟจะไม่สด เลยนำไปแช่ตู้เย็น เพราะการที่เราเอาเมล็ดกาแฟไปแช่ตู้เย็นจะทำให้เสียรสชาติ นอกจากนี้มันยังดูดซับกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ในตู้เย็นอีกด้วย

6. กระเทียม

เย็นๆ ชื้นๆ ยิ่งแตกหน่อนะจ๊ะ และเมื่อแช่ไว้นานขึ้นมันก็จะเริ่มเก่า ขึ้นรา และงอกออกมาเป็นต้นกันเลยทีเดียว แถมยังทำให้เนื้อของกระเทียมนั้นหดเร็วขึ้นด้วย เราแนะนำให้เอาไว้ในที่โปร่งแสง อากาศถ่ายเทสะดวกหรือจะใส่ไว้ในตระกร้าไว้ในครัว แค่นี้ก็อยู่ได้เป็นเดือนแล้วจ้า

7. แอลกอฮอล์

โดยปกติแล้ววอดก้าและจินโทนิคสามารถแช่ไว้ในตู้เย็นได้ เนื่องจากมีน้ำเป็นส่วนประกอบส่วนใหญ่ แต่แอลกอฮอล์แบบกลั่น ควรเก็บไว้ที่อุณภูมิห้อง เนื่องจากมีจุดเยือกแข็ง ดังนั้นถ้าเรานำไปแช่ตู้เย็นจะทำให้เสียรสชาติหมดจ้า

8. น้ำผึ้ง

บางคนที่ไม่รู้ว่าจะเก็บน้ำผึ้งไว้ที่ไหน จะเก็บไว้ข้างนอกก็กลัวมดขึ้น งั้นเอาไปแช่ในตู้เย็นเลยดีกว่า รู้ไหมว่าการเก็บน้ำผึ้งไว้ในตู้เย็นจะทำให้น้าผึ้งหนืดเร็วขึ้น เทยาก และยังทำให้เป็นผลึกแข็ง จะนำมาใช้ทีก็ต้องรอให้หายแข็งเสียก่อน บางทีก็นานเกิ๊นนนน

9. ซอสพริก

เหตุผลคล้ายๆ กับน้ำผึ้ง ซอสพริกเป็นเครื่องปรุงรสแบบด่วน อารมณ์ประมาณว่า เฮ้ย! จะกินไส้กรอกอะไรก้ต้องจิ้มซอสพริก หรือจะกินข้าวกับไข่เจียวก็ต้องมีซอสพริกด้วย แต่ถ้าเพื่อนๆ เอาไปแช่ตู้เย็น พอเอาออกมากินทีก็ต้องรอให้ซอสพริกละลายถึงจะเทได้ อาหารมื้อนั้นคงกร่อย ความจริงแล้วซอสพริกสามารถเก็บไว้ได้ถึง 3 ปีกันเลยทีเดียว

10. ขนมปัง

หลายคนเชื่อว่า ถ้านำขนมปังไปแช่ตู้เย็น จะทำให้ขนมปังอยู่ได้นานขึ้น นอกจากจะเป็นความคิดที่ผิดแล้ว ยังทำให้ขนมปังของเรานั้นกลายเป็นขนมปังที่ไม่อร่อยเลย ทั้งเย็น กรอบเป็นโพรงอีก

11. ใบกระเพรา ใบโหระพา

ไม่ควรนำไปแช่ตู้เย็น เพราะจะทำให้ใบกระเพรา ใบโหระพาแห้งและเหี่ยวไว ไม่เพียงเท่านั้น เพราะมันยังดูดซับกลิ่นจากตู้เย็นเข้ามาไว้ในตัวอีกด้วยถ้าเป็นแบบนี้ก็จะนำไปประกอบอาหารอีกต่อไปไม่ได้

12. น้ำมันมะกอก

ถ้าเรานำไปแช่ในตู้เย็น น้ำมันมะกอกอาจจะกลายเป็นรูปร่างเหมือนเนยเลยก็ได้นะ ดังนั้นควรเก็บไว้ในที่เย็นพอประมาณ ห่างจากแสงแดด แค่นนี้ก็พอแล้วจ้าาา

13. แอปเปิล

เหตุผลที่ไม่ควรนำไปแขาตู้เย็นก็คล้ายๆ กับมะเขือเทศเลย คือถ้าเราเก็บแอปเปิลไว้ในตู้เย็นจะทำให้มันเสียรสชาติ แต่หากจะรับประทานให้ได้รสชาติ เพียงปอกแล้วนำไปแช่ตู้เย็นก่อนรับประทานสัก 30 นาที แค่นั้นก็อร่อยแล้ว

14. ส้ม

ไม่ควรเก็บไว้ในตู้เย็นเด็ดขาด! แค่วางไว้ในอุณหภูมิห้องปกติก็พอแล้ว โดยใส่ถุงและมัดปากถุงให้แน่น เนื่องจากเมื่อเก็บพวกมันไว้ในตู้เย็นมันเสี่ยงที่จะเป็นเชื้อราได้ง่ายนั่นเอง

15. ผักกาดดอง

เป็นอาหารอีกประเภทหนึ่งที่มีสารกันบูดและน้ำส้มสายชูในปริมาณสูง ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องแช่ตู้เย็น แต่หากคุณชอบรับประทานแบบเย็นๆ เราแนะนำให้วางไว้ในตู้เย็นบริเวณประตูตู้เย็นก็พอ

ที่มา : youtube : BuzzFeedBluehttp://www.allyou.com/food/ , http://mcot-web.mcot.net/lively