โรคติดต่อ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โรคเริม โรคเริมที่ปาก

โรคเริม ที่ปาก เกิดจากอะไร มีวิธีดูแลรักษา และป้องกันอย่างไร?

Home / สุขภาพทั่วไป / โรคเริม ที่ปาก เกิดจากอะไร มีวิธีดูแลรักษา และป้องกันอย่างไร?

โรคเริมที่ปาก ถือได้ว่าเป็นโรคผิวหนังชนิดหนึ่ง ที่เกิดขึ้นได้เนื่องจากการติดเชื้อ อีกทั้งความเครียดยังคงเป็นอีกหนึ่งสาเหตุ ที่ทำให้เกิด โรคเริม ได้เช่นเดียวกัน สำหรับผู้ที่เป็นโรคเริมที่ปาก มักจะค้นพบตุ่มแดง ๆ ใส ๆ เกิดขึ้นบริเวณปากบนและปากล่าง อีกทั้งยังคงรู้สึกคัน และมีอาการปวดแสบปวดร้อนตลอดเวลา จนกระทั่งส่งผลทำให้คุณเกิดความรำคาญใจได้ในที่สุด

โรคเริม ที่ปาก เกิดจากอะไร

สาเหตุ โรคเริม

สำหรับ โรคเริม ที่เกิดขึ้นที่ปาก สาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้เกิดโรคเริมที่ปากนั้น ส่วนใหญ่จะสืบเนื่องมาจากผู้ป่วยมีอาการติดเชื้อไวรัส ซึ่งเชื้อไวรัสที่ว่านี้ อาจจะอยู่ในน้ำลาย น้ำเหลือง หรือแม้กระทั่งอสุจิ ซึ่งเชื้อไวรัสเหล่านี้ จะสามารถเข้าสู่ร่างกายผ่านทางผิวหนัง โดยเฉพาะบริเวณที่เป็นแผลถลอก หรือผ่านทางเพศสัมพันธ์ได้ อีกทั้งยังสามารถเข้าสู่ร่างกายผ่านทางเยื่อเมือกและเยื่อบุช่องปากได้อีกด้วย

โรคเริม ที่ปาก เกิดจากอะไร มีวิธีดูแลรักษา และป้องกันอย่างไร?

ปัจจัยที่เร่งให้เกิดโรคเริมบริเวณปาก

สำหรับโรคเริมที่เกิดขึ้นบริเวณปาก เมื่อเป็นแล้วรักษาหายแล้ว ก็สามารถกลับมาเป็นอีกได้ โดยเฉพาะถ้าหากผู้ป่วยเกิดอาการเครียดอย่างเป็นประจำ มีลักษณะนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ จนกระทั่งส่งผลทำให้สุขภาพร่างกายไม่แข็งแรง และระบบภูมิคุ้มกันต่ำลง โรคเริม ก็จะกลับมาทำร้ายคุณแบบซ้ำแล้ว ซ้ำเล่าได้อย่างต่อเนื่อง

โรคเริม ที่ปาก เกิดจากอะไร มีวิธีดูแลรักษา และป้องกันอย่างไร?

อาการของเริม

โดยรวมแล้วอาการของเริมที่ปาก และเริมที่อวัยวะเพศนั้น ค่อนข้างคล้ายกัน โดยจะมีตุ่มน้ำใสบริเวณที่ติดเชื้อ ได้แก่ ปาก อวัยวะเพศ ทวารหนัก บั้นท้าย หรือต้นขา มีอาการเจ็บปวด แสบที่บริเวณแผล หากเป็นการติดเชื้อครั้งแรกจะมีอาการค่อนข้างรุนแรงและหายช้า แต่ถ้าหากเป็นการติดเชื้อซ้ำ อาการจะไม่รุนแรงและหายได้เร็วกว่า

การติดต่อของโรค

สำหรับโรคเริมที่เกิดขึ้นบริเวณปาก นับได้ว่าเป็นโรคชนิดหนึ่งที่ สามารถติดต่อกันได้ โดยเฉพาะการติดต่อจะผ่านทางน้ำลาย และน้ำเหลือง ส่วนพฤติกรรมที่ทำให้เกิดการติดต่อของโรคนี้ ไม่ว่าจะเป็น การดื่มน้ำแก้วเดียวกัน ใช้ของร่วมกัน หรือแม้กระทั่งการจูบปากกัน เนื่องจากพฤติกรรมเหล่านี้ จะส่งผลทำให้เชื้อไวรัสแพร่กระจายไปยังคนใกล้ตัวได้

โรคเริม ที่ปาก เกิดจากอะไร มีวิธีดูแลรักษา และป้องกันอย่างไร?

การวินิจฉัยเริม

โรคเริม สามารถวินิจฉัยด้วยการตรวจโดยแพทย์ แต่ถ้าหากแพทย์ไม่แน่ใจว่าใช่อาการของเริมหรือไม่แพทย์ก็อาจจะมีการสั่งตรวจทางห้องปฏิบัติการเพิ่ม เช่น การตรวจเลือด การเพาะเชื้อ เนื่องจากอาการของเริมนั้นค่อนข้างคล้ายกับโรคอื่น ๆ อาทิ โรคงูสวัด แผลร้อนใน การติดเชื้อแบคทีเรีย

การรักษา โรคติดต่อ เริม

ปัจจุบัน โรคเริม ยังคงเป็นโรคที่ ไม่สามารถรักษาให้หายสนิทได้ ซึ่งโดยหลัก ๆ แล้วการรักษาโรคเริมจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ

1. การบรรเทาอาการเจ็บปวด โดยแพทย์อาจสั่งยาบรรเทาอาการปวด ซึ่งแผลจากโรคเริมจะสามารถหายเองได้ภายในเวลา 2-6 สัปดาห์ และถ้าหากมีอาการปวดมาก ยังคงสามารถประคบด้วยน้ำเกลือหรือน้ำเย็นที่บริเวณแผล วันละประมาณ 4-5 ครั้ง เพื่อช่วยลดอาการปวดให้ลดลงได้

2. การควบคุมการแพร่กระจายของไวรัส โดยปกติแล้วเมื่อมีอาการของโรคเริม แพทย์มักจะสั่งใช้ ยาอะไซโคลเวียร์ (Acyclovir) หรือ ยาวาลาไซโคลเวียร์ (Valacyclovir) เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส และช่วยลดความรุนแรงของอาการ โดยยาเหล่านี้จะอยู่ในรูปของยาชนิดรับประทาน นอกจากนี้ ยาที่มีส่วนประกอบของอะไซโคลเวียร์ที่อยู่ในรูปแบบครีมสำหรับทา ก็ยังนิยมนำมาใช้เพื่อบรรเทาอาการของเริมในขณะที่เป็นได้ด้วย

โรคเริม ที่ปาก เกิดจากอะไร มีวิธีดูแลรักษา และป้องกันอย่างไร?

วิธีการป้องกัน เพื่อไม่ให้เป็น โรคเริมที่ปาก

วิธีการป้องกันเริมที่ดีที่สุด ก็คือการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในการติดเชื้อทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็น

  • การใช้ของใช้ร่วมกับผู้ที่ติดเชื้อ หรือ
  • การสัมผัสกับเชื้อโดยตรงอย่าง การหอมแก้ม การจูบ
  • แม้แต่การใช้ลิปสติกร่วมกัน
  • หลีกเลี่ยงการทำออรัลเซ็กส์ ถ้าเราไม่มั่นใจว่าเค้าจะปลอดเชื้อจริงๆ
  • นอกจากนี้การมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัยด้วยการใช้ถุงยางอนามัยก็สามารถช่วยป้องกันการติดเชื้อได้

โรคเริม ที่ปาก เกิดจากอะไร มีวิธีดูแลรักษา และป้องกันอย่างไร?

สำหรับผู้ป่วยที่เคยมีการติดเชื้อมาก่อนแล้ว ควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรงเนื่องจากเชื้อไวรัสจะโจมตีร่างกายเมื่อภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ถ้าหากมีสุขภาพที่แข็งแรงก็จะช่วยให้การติดเชื้อลดลงได้

ขอบคุณข้อมูลจาก pobpad.com และ honestdocs.co

Write by TuTee

บทความแนะนำ