การฝังยาคุมกำเนิด ถ้าหากประจำเดือนไม่มา จะเกิดผลเสียต่อร่างกายอย่างไร

ยาฝังคุมกำเนิด เป็นอุปกรณ์ปลูกฝังทางการแพทย์ใช้เพื่อ คุมกำเนิด อาจทำโดยการปล่อยฮอร์โมน เพื่อยับยั้งการตกไข่หรือการพัฒนาของตัวอสุจิ การใช้ทองแดงเป็นสารฆ่าเชื้ออสุจิในมดลูก หรืออาจใช้วิธีกีดขวางโดยไม่ใช้ฮอร์โมน ยาฝังคุมกำเนิด ถูกออกแบบเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์โดยไม่สามารถป้องกัน โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ 

การฝังยาคุมกำเนิด ทำอย่างไร?

จะใช้อุปกรณ์เฉพาะสำหรับฝัง เหมือนเป็นเข็มฉีดยาเพื่อดันหลอดยาฝังเข้าไปใต้ผิวหนัง ใช้เวลาฝังเฉลี่ยเพียง 1-2 นาทีเท่านั้น ปัจจุบันวงการแพทย์ได้พัฒนา ยาฝังคุมกำเนิด ในรูปแบบใหม่ที่ใช้ได้ง่ายกว่าเดิม นั่นก็คือ อิมพลานอน (Implanon) เป็น ยาฝังคุมกำเนิด ชนิด 1 หลอด  ที่ยังคงประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดไว้ได้เป็นอย่างดี โดยจะมีอายุการใช้งาน 3 ปี

คลิป ฝังยาคุมกำเนิด

หากประจำเดือนไม่มา ควรทำอย่างไร?

ตอบโดย ประสิทธิ์ วิริยะกิจไพบูลย์ (นพ.) และ รัฐวิชญ์ สุนทร (นพ.)

การฝังยาคุมกำเนิด คือ ฝังหลอดบรรจุฮอร์โมนสังเคราะห์เข้าไปใต้ผิวหนัง สามารถออกฤทธิ์ป้องกันการตั้งครรภ์ได้นาน 3 หรือ 5 ปีตามชนิดของยาฝังคุมกำเนิด ผลข้างเคียงคือ ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ มีเลือดออกกะปริบกะปรอย และอาการจะลดน้อยลงหลังฝังยาไปแล้วประมาณ 6 เดือน

อาการผิดปกติของประจำเดือน แล้วแต่การตอบสนองในแต่ละราย

กรณีที่ 1 ประจำเดือนจะมากะปริบกะปรอยในช่วง 6 เดือนแรก

กรณีที่ 2 ประจำเดือนไม่มา หรือนานๆ มาที

กรณีที่ 3 ประจำเดือนมาปกติ ดังนั้นไม่ต้องกังวลนะครับ

คำถามที่ว่าประจำเดือนไม่มาจะส่งผลต่อร่างกายอย่างไรบ้าง

ยาฝังคุมกำเนิด เป็นวิธีคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพดีมาก โอกาสตั้งครรภ์มีแค่ 0.05% แต่เนื่องจากเป็นยาฮอร์โมน ดังนั้น จึงมีฤทธิ์ของฮอร์โมนต่อผู้ใช้ได้ การที่ประจำเดือนไม่มาก็เป็นหนึ่งในผลของยา ซึ่งไม่ใช่ผลเสีย และไม่ทำให้สุขภาพของเราในระยะยาวนั้นผิดปกติแต่อย่างใด หากเลิกใช้ยาฝังคุมกำเนิด ประจำเดือนก็จะกลับมาเป็นปกติได้

ข้อมูลจาก honestdocs.co
written by : TuTee

บทความอื่นๆ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง