อย่ามองข้ามของดี! คะน้า ผักมากประโยชน์ แม้ผ่านความร้อนสารอาหารก็ยังคงทน

คะน้า ผักยอดฮิตที่นิยมนำไปประกอบเมนูอาหาร เช่น ราดหน้า ผัดซีอิ๊ว เป็นต้น อุดมไปด้วยสารอาหารหลากหลาย อาทิ มีวิตามินเกลือแร่  เช่น เบต้าแคโรทีน วิตามินซี และแคลเซียม เป็นต้น ถือเป็นผักใบเขียวที่คนรักสุขภาพไม่ควรมองข้าม

ผักคะน้า เสริมภูมิคุ้มกัน บำรุงผิว สายตา ช่วยลดคอเลสเตอรอล

– คะน้ามีคุณค่าทางโภชนาการ ต่อ 100 กรัมของคะน้า ให้พลังงาน 22 กิโลแคลอรี่ โปรตีน 2.2 กรัม คาร์โบไฮเดรต 3.8 กรัม ไขมัน 0.7 กรัม

– ผักคะน้ามีแคลเซียม มีส่วนช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟัน ช่วยป้องกันการเกิดโรคกระดูกพรุน

– มีเบต้าแคโรทีน เมื่อร่างกายได้รับเบต้าแคโรทีนเข้าไป ร่างกายจะย่อย และเปลี่ยนเบต้าแคโรทีนเป็นวิตามินเอ ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง ช่วยถนอมสายตาให้สายตาดี

– ในผักคะน้ายังมีสารลูทีน (Lutein) ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคต้อกระจกได้ถึง 29%

– มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกาย ช่วยบำรุงผิวพรรณให้ดูดีสดใส และป้องกันการติดเชื้อต่าง ๆ เพราะช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานในกับร่างกาย ทำให้มีสุขภาพแข็งแรง

แม้เอาผักไปล้างหรือปรุงด้วยความร้อนสารอาหารที่มีประโยชน์ต่างๆ ก็จะไม่ค่อยสูญหายไป เพราะมีเบต้าแคโรทีนคุณสมบัติสารอาหารต่างๆ จึงคงทน

– มีวิตามินซีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยให้หลอดเลือดหัวใจ และร่างกายมีความยืดหยุ่น ลดความเสี่ยงในการเกิดปัญหาหลอดเลือดหัวใจตีบได้

– เป็นผักที่เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน หรือผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำตาลเป็นพิเศษ เพราะมีน้ำตาลน้อยเพียง (3-5%)

– มีใยอาหาร สามารถช่วยเรื่องระบบขับถ่ายได้ดี และยังสามารถเข้าไปขัดขวางการดูดซึมคอเลสเตอรอลเข้าสู่ร่างกาย ช่วยลดระดับไขมันในเลือดได้ ใครท้องผูก หรืออยากลดไขมัน คะน้าเป็นผักที่ควรไม่มองข้ามเลยล่ะค่ะ

– หากทานผักคะน้าเป็นประจำ จะสามารถช่วยป้องกันการเกิดตะคริว ช่วยรักษาโรคหอบหืด ช่วยรักษาโรคภูมิแพ้ ช่วยคลายการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อ

– คะน้ายังสามารถช่วยปรับสมดุลของฮอร์โมนในร่างกาย ช่วยลดอาการหงุดหงิด อารมณ์แปรปรวนในสตรีช่วงมีประจำเดือนได้

ที่มา:  มูลนิธิหัวใจแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์, medthai.com

ภาพ: Freepik 1, Freepik2, Freepik3, Freepik4

ข่าวที่เกี่ยวข้อง