กรุบๆ มันๆ ดีต่อสุขภาพ “เม็ดมะม่วงหิมพานต์” กับประโยชน์เด็ดๆ ที่คุณอาจยังไม่รู้

เม็ดมะม่วงหิมพานต์ อาหารว่างทานเล่น บางคนก็ชอบนำมาเคี้ยวเพลินๆ บางคนก็นำไปประกอบอาหารเช่น ยำ ส้มตำ ไก่ผัดเม็ดมะม่วงหิมพานต์ เป็นต้น ถือเป็นของทานที่ดีมีประโยชน์ โดยเฉพาะคนที่คิดจะรักษารูปร่าง เม็ดมะม่วงหิมพานต์ถือเป็นของว่างทานเล่นที่ควรมีไว้ในลิสต์เลยล่ะค่ะ (แต่ต้องทานในปริมาณที่เหมาะสมด้วยนะคะ)

ประโยชน์ของ เม็ดมะม่วงหิมพานต์

– ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นปฏิกิริยาออกซิเดชันที่ควบคุมไม่ได้สามารถทำลายเซลล์และทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ดังนั้นการทานเมล็ดมะม่วงหิมพานต์ก็จะช่วยลดสาเหตุปัญหาสุขภาพต่างๆ ได้

– ช่วยเพิ่มพลังงานให้กับร่างกายได้เป็นอย่างดี เพราะในเม็ดมะม่วงหิมพานต์มีแมกนีเซียมสูง ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนน้ำตาลให้เป็นพลังงาน ช่วยป้องอาการหมดเรี่ยวแรงได้เป็นอย่างดี

– มีใยอาหารสูง ช่วยลดการดูดซึมไขมันได้ ทำให้อิ่มนานขึ้น และทานอาหารได้น้อยลง ใครที่คิดจะรักษารูปร่าง ถือเป็นอาหารทานว่างที่ควรหามาทาน แต่ควรทานในปริมาณที่พอเหมาะ

– เมล็ดมีกรดไลโนเลอิก (Linoleic acid)ช่วยป้องกันโรคไขมันอุดตันในเส้นเลือด ป้องกันโรคหัวใจ และโรคเกี่ยวกับทรวงอกได้

– เม็ดมะม่วงหิมพานต์มีกรดอนาร์ดิกที่มีคุณสมบัติช่วยกำจัดเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคฟันผุได้ และช่วยบรรเทาอาการเสียวฟันหรือปวดฟันได้ด้วย (แต่กรดชนิดจะออกฤทธิ์เพียงแค่ 15 นาทีเท่านั้น ข้อมูลจากชาร์ลส์ เวเบอร์ นักวิทยาศาสตร์จากนอร์ทแคโรไลนา สหรัฐอเมริกา)

– เมล็ดมีกรดไขมันอิ่มตัวในปริมาณมาก จึงช่วยป้องกันโรคไขมันตับ ไม่ให้สะสมในร่างกายมากจนเกินไป ผลดีคือไม่ทำให้เป็นโรคอ้วน

– เม็ดมะม่วงหิมพานต์อาจเป็นอาหารอีกชนิดหนึ่งที่ดีต่อการป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด เพราะมีสารอาหารสำคัญ เช่น ไขมันชนิดดี กากใยอาหาร โปรตีน รวมถึงกรดอะมิโนอย่างอาร์จีนีน (Arginine) โดยสารเหล่านี้อาจช่วยให้ผนังหลอดเลือดขยายตัว และลดการสะสมของไขมันชนิดไม่ดีที่อาจอุดตันหลอดเลือดหัวใจได้

– มีงานวิจัยหนึ่งค้นคว้าในห้องทดลองแล้วพบว่า สารสกัดจากเปลือกเม็ดมะม่วงหิมพานต์ที่คนมักนำมารักษาโรคผิวหนัง รอยแตกบริเวณเท้า และแผลจากมะเร็งนั้น มีฤทธิ์ยับยั้งการทำงานของแบคทีเรียบางชนิด เพราะมีสารประเภทฟีนอล (Phenol) ที่มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระและอาจส่งผลดีต่อการฟื้นฟูบาดแผลให้หายเร็วขึ้น

อย่างไรก็ตาม  เม็ดมะม่วงหิมพานต์ยังไม่มีการแนะนำให้ใช้เพื่อการรักษาโรคใด ๆ เป็นหลัก เนื่องจากไม่มีหลักฐานทางการแพทย์เพียงพอที่จะยืนยันว่ารักษาโรคต่างๆ ให้หายได้จริง แต่การนำมาทานเป็นของว่าง อาหารทานเล่น ในปริมาณที่พอเหมาะก็จะไม่เป็นอันตราย และได้รับประโยชน์ต่อร่างกายอย่างแน่นอนค่ะ

อาหารทุกอย่างถึงแม้ว่าจะมีประโยชน์ แต่ก็ควรบริโภคในปริมาณพอดีนะคะ ไม่ว่าจะเป็นอาหารประเภทไหน หากทานมากเกินความต้องการของร่างกาย ก็จะกลายเป็นโทษได้ทั้งนั้นค่ะ

ข้อมูลจาก: pobpad, medthai

Written by : Thexyz

ข่าวที่เกี่ยวข้อง