ยุคนี้เป็นยุค New Normal เป็นช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงของจริง ทุกคนทั่วโลกต่างปรับตัวตามโรคระบาด โควิด-19 เรียกได้ว่าเป็นการตื่นตัวที่จะหันมาดูแลตัวเองอย่างจริงจังแบบพร้อมเพรียงกันเลยก็ว่าได้อาหารเสริมกลายเป็นปัจจัย 5 ขึ้นมาแบบไม่รู้ตัว และที่หลายคนถามถึงมากคืออาหารเสริมแนวสุขภาพ ซึ่งแต่ก่อนนั้นสายความงามแทบจะ ครองใจผู้บริโภคเกือบทั้งหมด
อาหารเสริม เพิ่มคุณภาพชีวิตได้อย่างไร
ยิ่งในโลกโซเชียลออนไลน์ตอนนี้ มีหลากหลายข้อมูลที่พยายามชี้นำ และสอดแทรกเนื้อหาชวนเชื่อให้คนหันมาบริโภคอาหารเสริมมากขึ้น นั่นเพราะความต้องการของผู้บริโภคได้เปลี่ยนแปลงไปนั่นเอง และยิ่งอาหารจากธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่ดีถูกลิดรอนจากสารเคมีและโรคร้ายมากขึ้นเท่าไหร่ ความไว้ใจในอาหารและสิ่งแวดล้อม เดิม ๆ ก็จะถูกลดทอนลงมามากเท่านั้น และอาจก่อเกิดเป็นความกลัวขึ้นในใจของผู้บริโภค จนกลายเป็นชนวนสำคัญในการจุดประกายให้ วิตามิน หรือ อาหารเสริม เข้ามามีอิทธิพลต่อผู้บริโภคมากขึ้นไปอีก
อย่างไรก็ดี ถึงแม้อาหารเสริมจะมีคุณมากกว่ามีโทษ แต่ก็ควรเลือกให้เหมาะสมกับร่างกาย การเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดี ไม่ใช่แค่ปัจจัยภายนอกเท่านั้น แต่ยังหมายถึงภายในที่ได้รับการดูแลอย่างดีด้วยเช่นกัน
อาหารเสริมแบบไหนเหมาะกับเรา ?
แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่าอาหารเสริมแบบไหน เหมาะกับเราและไม่เหมาะกับเรา เพราะร่างกายมนุษย์ถูกสร้างมาไม่เหมือนกัน โดยเฉพาะ DNA ของแต่ละคนที่มีความแตกต่างกัน นั่นหมายถึงทั้งการรับสารอาหาร ระบบเผาผลาญ และการทำงานภายในทั้งระบบถูกตั้งค่าตามวิถีธรรมชาติที่แตกต่างกันนั่นเอง
การตรวจ DNA เป็นเรื่องยากมากในสมัยก่อน แต่สมัยนี้เทคโนโลยีการตรวจ DNA พัฒนาไปไกลมากจนสามารถนำมาใช้ประโยชน์ในการช่วยวางแผนพฤติกรรมของเรา ให้สามารถจัดการโภชนาการ และวางแผนการออกกำลังกายให้เหมาะสมกับตัวเองได้อย่างถูกต้อง หรือเลือกทานอาหารเสริมแต่ละชนิด ให้สัมพันธ์กัน กับความต้องการของร่างกาย ได้อย่างเหมาะสมมากขึ้น เพื่อเสริมสุขภาพร่างกายที่ดีให้กับตัวเองในระยะยาวได้
แต่ถ้าหลักทางการแพทย์จะเรียกวิธีนี้ว่า เวชศาสตร์ชะลอวัย เป็นการดูแลร่างกายแบบองค์รวม เพื่อให้เกิดความสมดุลและช่วยลดการเกิดของโรคภัยไข้เจ็บที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้อีกด้วย แต่แน่นอนว่าวิธีนี้อาจมีราคาที่ต้องจ่ายค่อนข้างสูง แต่ว่าอย่าเพิ่งหมดหวังไป เพราะวันเรามีคำแนะนำดี ๆ จากผู้เชี่ยวชาญทางด้านอาหารเสริมทางการแพทย์ ภก.ดร. ปัณณวิชญ์ โชติเตชธรรมมณี (ดร.เจล) มาฝากกันค่ะ
เลือกทานวิตามิน หรือ อาหารเสริมอย่างไร ให้เหมาะสมกับร่างกาย แม้ไม่ได้ตรวจ DNA
“เริ่มจากการสังเกตตัวเองก่อนว่าทานอาหารครบ 5 หมู่หรือไม่ ชอบทานอะไร ไม่ชอบทานอะไร โดยธรรมชาติแล้วอะไรที่ไม่ชอบคนส่วนใหญ่ก็จะไม่ค่อยฝืนทานกัน นั่นหมายความว่าเรากำลังขาดสารอาหารตัวนั้นอยู่ เมื่อรู้ว่าขาดอะไรก็เติมอาหารเสริมตัวนั้นเข้าไปเพื่อทดแทนกัน เช่น ไม่ชอบทานผัก ไม่ชอบทานเนื้อสัตว์ ไม่ทานแป้ง ก็เติมอาหารเสริมที่ขาดตัวนั้นแทนลงไป อย่าพยายามให้ร่างกายขาดอะไรมาก ๆ เพราะจะทำให้ระบบสมดุลของร่างกายพังเสียหายได้ ส่วนใหญ่มักจะฟ้องออกมาทางร่างกายภายนอกโดยเฉพาะผิวหนัง เล็บมือ ที่สามารถสังเกตุได้ง่าย ยกตัวอย่างง่าย ๆ อย่างคนที่ชอบทานอาหารรสหวานติดต่อกันนาน ๆ ก็จะทำให้คอลลาเจนที่ผิวเสื่อมเร็วกว่าปกติ ผิวจะแห้งกร้านและเกิดริ้วรอยได้ง่ายนั่นเอง
การทานวิตามิน หรือ อาหารเสริม ติดต่อกันเป็นเวลานาน ให้คุณ หรือ ให้โทษ อย่างไร
“โดยปกติแล้วสำหรับคนทานที่อาหารเสริมเป็นประจำ ควรเว้นระยะการทานติดต่อกันทุก ๆ 3 เดือน เป็นเวลาอย่างน้อย 7 วัน เพื่อให้ร่างกายปรับสมดุล เหมือนการรีบูทร่างกายใหม่ให้กลับมามีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับตอนที่เราทานอาหารเสริมอยู่ และเมื่อเรากลับมาทานอาหารเสริมใหม่ ร่างกายก็ปรับสภาพให้ไปในทิศทางที่ดีมากขึ้นไปอีก แต่อย่างไรก็ดีก็ต้อง ยึดหลักของความพอดีเป็นสำคัญ และถ้าปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางด้านอาหารเสริมควบคู่กันไปด้วยจะดีที่สุด”
จำเป็นหรือไม่ที่ต้องทานวิตามิน หรือ อาหารเสริม
“ในยุคที่เรากำลังเผชิญวิกฤติของโรคระบาด การปกป้องตัวเองด้วยการสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีให้กับร่างกายเป็นอะไรที่ควรใส่ใจมากที่สุดในเวลานี้ ยิ่งถ้าทานอาหารหลักไม่ครบ 5 หมู่ วิตามินหรืออาหารเสริมเหล่านี้ช่วยได้มากทีเดียวเพราะจะไปช่วยเติมเต็มในส่วนที่ร่างกายขาดหายไป เมื่อเราสร้างเกราะป้องกันโรคที่ดีจากภายในได้แล้วภายนอกก็จะดีตามไป คนส่วนใหญ่จะเลือกทานอาหารที่ตัวเองชอบ แต่อะไรที่ออกรสขม หรือ มีกลิ่นฉุนอย่างผักผลไม้บางชนิดก็จะถูกทิ้งไปอย่างน่าเสียดาย ซึ่งส่วนใหญ่ผักผลไม้ที่ถูกมองข้ามเหล่านี้มีฤทธิ์ในการช่วยฟื้นฟูร่างกายและปรับสมดุลให้ร่างกายแข็งแรงและพร้อมสู้กับโรคภัยไข้เจ็บได้ดีอีกด้วย”
สำหรับผู้ที่กำลังสนใจ วิตามิน หรืออาหารเสริม ให้คำแนะนำในการเลือกซื้ออย่างไร
“สำหรับมือใหม่ ข้อแนะนำแรกเลย คือ ให้ลองสังเกตตัวเองก่อนว่าร่างกายขาดอะไร แล้วเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารอาหารนั้นเติมลงไป และที่สำคัญอย่าลืมสังเกตข้อมูล เลขที่จดแจ้ง อย. และชื่อโรงงานผู้ผลิตต้องมีมาตรฐานรับรองเท่านั้นถึงจะปลอดภัยสำหรับผู้บริโภคมากที่สุด และในความโชคดีของยุคสมัยนี้คือการมีสื่อออนไลน์ซึ่ง
สามารถเข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ ได้อย่างทั่วถึงและเป็นเรื่องที่ง่ายมาก ดังนั้นก่อนตัดสินใจซื้อควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนเป็นอันดับแรก เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของเราครับ”
ข้อมูลจาก www.doctorjel.co.th