วิตามิน ถือได้ว่าเป็นสารประกอบอินทรีย์ที่มีความสำคัญต่อร่างกายมนุษย์เป็นอย่างมากเลยทีเดียว โดยในร่างกายของคนเรานั้นมีความต้องการวิตามินในประเภทต่างๆ อย่างมากมาย เพื่อนำวิตามินเหล่านั้นมาทำให้มีร่างกายที่แข็งแรงและรักษาสมดุลของร่างกาย แต่ทั้งนี้การที่เราเน้นทานวิตามินเพียงแค่บางชนิดชนิดเท่านั้นจะทำให้ร่างกายของเราเกิดอาการต่างๆ ออกมาได้ เพื่อเป็นการสื่อใหรู้ว่าในตอนนี้ร่างกายของเรากำลังจะป่วยหรืออ่อนแอแค่ไหนนั่นเอง
อาหารที่เราควรทานเมื่อขาดวิตามิน
และนี่ก็คือ 8 วิธีในการสังเกตร่างกายของตนเองว่ากำลังมีอาการขาดวิตามินอยู่หรือไม่ พร้อมแนวนางในการแก้ไขอาการเหล่านั้นด้วยวิธีการทานอาหารที่มีประโยชน์ดังต่อไปนี้…
1. อาการผมร่วง
สำหรับสาเหตุที่ทำให้ผมร่วงนั้นก็คือ การขาดวิตามัน B ได้แก่ วิตามิน B6, วิตามิน B12 และวิตามิน B9 นอกจากนี้ยังเกิดจากการขาดแร่ธาตุ ได้แก่ แมกนีเซียม, ซัลเฟอร์ และสังกะสี อีกด้วย ทั้งนี้วิธีในการแก้ปัญหาผมร่วงก็ง่ายๆ เลยคือ เราจะต้องทานอาหารทที่มีส่วนประกอบของวิตามินและแร่ธาตุในปริมาณที่เหมาะสม จะช่วยในการคงสภาพเม็ดเลือดแดงให้นำออกซิเจนไปเลี้ยงเซลล์รากผมได้ดียิ่งขึ้น เช่น เนื้อไก่ กล้วย ข้าวโอ๊ต เมล็ดทานตะวัน ผักโขม แครอท ปลาทูน่า ถั่วลิสง น้ำมะเขือเทศ และ อโวคาโด เป็นต้น
2. เป็นตะคริวบ่อยๆ
สาเหตุของการเป็นตะคริวนั้นสามารถเกิดได้หลายสาเหตุด้วยกัน และหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เป็นตะคริวได้นั้นก็คือ การขาดแคลเซียม แมกนีเซียม และโพแทสเซียม วิธีในการรักษาไม่ให้ตัวเองเป็นตะคริวบ่อยๆ ก็คือการทานถั่ว ไม่ว่าจะเป็น อัลมอนต์ หรือเฮเซลนัท นอกจากนี้ก็ยังมีฟักทอง กล้วย และแอปเปิ้ล เพียงเท่านี้ก็จะช่วยลดอาการเป็นตะคริวได้แล้ว
3. เป็นผื่นบนใบหน้า
สาเหตุของการเป็นผื่นบนใบหน้านั้นเกิดได้จากหลายสาเหตุด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการใช้เครื่องสำอางแล้เกิดอาการแพ้ การรับประทานยาบางตัวเข้าไปก็ทำให้เป็นผื่นได้เช่นกัน และอีกสาเหตุสำคัญก็คือ การขาดวิตามิน B7 วิธีในการแก้ไขอาการผื่นบนใบหน้าง่ายๆ เลย ได้แก่ การทานเห็ด มันฝรั่ง ชีส ไข่ต้ม ผักโขม และกะหล่ำดอกให้มากขึ้น
4. มีอาการชาตามแขนและขา
สำหรับอาการชาตามแขนและขา เกิดได้จากหลายสาเหตุด้วยกัน เช่น การนอนทับแขนตนเองเป็นเวลานานๆ ทำให้เส้นเลือดไหลเวียนเลือดได้ไม่สะดวก และการขาดวิตามิน B6, วิตามิน B9 และวิตามิน B12 ที่มีหน้าที่ในการบำรุงและซ่อมแซมระบบประสาท ฯลฯ ถ้าหากร่างกายได้รับวิตามินน้อยก็จะทำให้เส้นประสาทเกิดอาการอักเสบ นอกจากนี้การมีอาการชาแขนและขายังทำให้เราป่วยเป็นโรคบางชนิดได้ด้วย เช่น โรคเบาหวาน โรคพิษสุราเรื้อรัง เป็นต้น ในส่วนอาหารที่จะขช่วยทำให้อาการดีขึ้นได้แก่ อาหารจำพวกถั่ว อาหารทะเล ส้ม และสัตว์มีปีก
5. มีตุ่มขึ้นตามมือและบริเวณสะโพก
หลายๆ คนอาจจะคิดว่าเวลาที่มีตุ่มขึ้นตามมือและบริเวณสะโพกนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ร้ายแรงอะไรเลยปล่อยตามเลยไม่ได้สนใจอะไร แต่รู้ไหมนี้กำลังเป็นสัญญาณที่บอกว่าร่างกายของเรากำลังขาดวิตามิน A และวิตามิน D อยู่ วิธีง่ายๆ ที่จะช่วยทำให้อาการเหล่านี้หายไปก็คือ การทานอาหารจำพวกถั่ว แซลมอน แครอท และพริกไทย
6. ตาขาวกลายเป็นสีเหลือง
ตาขาวกลายเป็นสีเหลืองไม่ได้เกิดจากการอาการง่วงนอนเท่านั้น แต่เกิดจากการที่เราขาดวิตามิน B12 โดยวิธีในการรักษาอาการตาขาวกลายเป็นสีเหลืองก็คือ การทานอาหารจำพวกเนื้อวัว ตับไก่ แซลมอน ปลาทูน่า เนื้อแกะ และนม เพียงเท่านี้เราก็จะกลับมามีดวงตาที่สวยสดใสแล้ว
7. มีปัญหาในช่องปาก
สำหรับปัญหาสุขภาพในช่องปาก ไม่ว่าจะเกี่ยวกับฟัน หรือเนื้อเยื่อบริเวณฟันที่มีความผิดปกติก็แล้วแต่ล้วนแต่เกิดมาจากการที่เราขาดวิตามิน D วิธีในการแก้ไขก็คือ การทานอาหารประเภทผัก และผลไม้ที่อุดมไปด้วยแคมเซียม, วิตามิน D เช่น ข้าวไม่ขัดสี มะเขือเทศ ถั่ว ปลา ส้ม และองุ่น
8. เป็นแผลที่มุมปากอยู่บ่อยๆ
สาเหตุของการเป็นแผลมุมปากอยู่บ่อยๆ หรือเป็นโรคปากนกกระจอกเกิดจากการที่เราขาดวิตามินจำพวก B3, วิตามิน B2 และวิตามิน B12 ดังนั้นเราควรที่จะหันมาทานอาหารจำพวกเนื้อปลา ไข่ และถั่วประเภทต่างๆ
ที่มา : https://brightside.me