บีทรูท (Beetroot) หรือ ผักกาดฝรั่ง ผักกาดแดง เป็นหัวพืชหรือรากที่สะสมอาหารที่อยู่ใต้ดิน เป็นพืชเมืองหนาว และเป็นผักเพื่อสุขภาพโดยแท้จริง ด้วยสารอาหารหลายชนิดที่มีอยู่ ได้แก่ แคลเซียม ฟอสฟอรัส โซเดียม โพแทสเซียม เหล็ก ทั้งให้วิตามินซีสูง วิตามินเอ บี 1 บี 2 และ สารสีแดงในหัวบีทรูท คือเบทานิน (betanin) เป็น กรดอะมิโนที่มีสรรพคุณยับยั้งการเจริญเติบโตของเนื้องอกและมะเร็ง ทั้งบีทรูทยังช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันร่างกาย บำรุงเลือด ทำให้การไหลเวียนของโลหิตไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกายได้ดี บำรุงตับ ไต ถุงน้ำดี เป็นอาหารล้างพิษโดยเฉพาะในผู้ป่วยที่ติดสุราเรื้อรัง เป็นยาระบาย แก้เจ็บคอ ขับเสมหะ แก้ไอ ช่วยการเจริญอาหารและแก้บิด แก้ปวดหัว ปวดฟัน ขับปัสสาวะ ลดอาการบวม
บีทรูท เอามาทานยังไงได้บ้าง?
หัวบีทรูปนั้นส่วนใหญ่เอามาปั่นเป็นน้ำบีทรูท ทำสมูธตี้ กินเป็นสลัด
น้ำบีทรูท
เตรียมวัตถุดิบ 1. หัวบีทรูทสด 2 หัว 2. น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย 3. เกลือป่น 1/3 ช้อนชา 4. น้ำสะอาด 1 ถ้วย
วิธีทำน้ำบีทรูทวิธีทำน้ำบีทรูท
1. นำบีทรูทมาปอกเปลือกแล้วล้างน้ำให้สะอาด แล้วหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ
2. นำบีทรูทที่หั่นเตรียมไว้ใส่ลงในเครื่องปั่นแยกกาก (ถ้าไม่มีเครื่องแยกกากก็ให้ใช้เครื่องปั่นน้ำผลไม้ก็ได้ แต่ต้องหั่นเป็นฝอย ๆ ก่อนนำลงไปปั่น)
3. เมื่อปั่นบีทรูทเสร็จ ให้กรองด้วยผ้าขาวบางเพื่อทำการแยกกากออก
4. นำน้ำบีทรูทที่ได้ ใส่หม้อตั้งไฟ จากนั้นเติมน้ำตาลทรายและเกลือเล็กน้อยเพื่อเพิ่มรสชาติ
5. นำมาเสิร์ฟพร้อมน้ำแข็งบดดื่มได้เลยเป็นอันเสร็จ พร้อมดื่ม
หมักใส่น้ำส้ม กินกับโยเกิร์ต
วิธีเตรียมการหมักบีทรูท
1. เอาบีทรูทมาปอกเปลือก ล้างให้สะอาด
2. จากนั้นซอยเป็นแผ่นๆ เอาใส่ขวดโหล ใส่น้ำส้มสายชู ใส่เกลือ (ใส่นิดเดียว)
3. เตรียมหัวหอมใหญ่ ที่หั่นบางๆ เช่นกัน เอาไปใส่ในขวดโหล
4. จากนั้นเอาไปแช่ในตู้เย็นประมาณ 1 วัน
แนะนำให้กินกับ Greek yogurt (เมื่อทานรวมกันรสชาติจะเปรี้ยว เค็ม มัน)
วันนึง แล้วก็เอาออกมากินได้ค่ะ (ไม่แน่ใจว่าเค้าใส่น้ำมันมะกอกด้วยหรือเปล่า) กินกับ Greek yogurt น่ะค่ะ อร่อยดี รสชาด เปรี้ยวเค็มมัน อร่อยมากค่ะ
บีทรูท กินเป็นสลัด
บางคนก็กินบีทรูทสดๆ บ้างก็ชอบต้ม กินเป็นสลัดผักต่างๆ
สมูทตี้แครอท+บีทรูท
ส่วนผสม : แครอทครึ่งลูก น้ำส้มคั้น 1 ลูก บีทรูทครึ่งลูก น้ำมะนาว 1/2 ช้อนโต๊ะ น้ำสะอาด น้ำแข็ง
วิธีทำ : ปั่นส่วนสผมทุกอย่างให้เข้ากัน
ผลข้างเคียง จากการรับประทานบีทรูท
การรับประทานอาหารที่ทำมาจากบีทรูทมากเกินไป จะทำให้ปัสสาวะ เป็นสีชมพูหรือสีแดง ซึ่งอาจจะทำให้เข้าใจผิดคิดว่าเป็นเลือดในปัสสาวะ อาการนี้เรียกว่า “บีทูเรีย” (beeturia) เกิดขึ้นเนื่องจากการกินบีทรูทมากเกินไป
บีทรูทเป็นหนึ่งใน อาหาร ที่มี oxalates ที่จะทำให้ร่างกายไม่ดูดซึม แคลเซียม เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดนิ่วในไตได้
แรดิช (Radish)
แรดิช (Radish) เป็นพืชล้มลุกขนาดเล็ก เป็นพืชเมืองหนาว ลำต้นสั้นๆเชื่อมอยู่ระหว่างรากกับใบ มีระบบรากแก้ว เป็นรากแก้วที่พองโต เรียกว่าหัว ไว้เก็บสะสมอาหาร หัวมีลักษณะทรงกลม หรือรูปไข่ ตามสายพันธุ์ มีเปลือกบางผิวเรียบ มีสีแดง สีขาว สีชมพู สีม่วง สีเหลือง สีดำ ตามสายพันธุ์ มีเนื้อแน่นฉ่ำน้ำ มีสีขาวนวล หรือสีชมพู มีรสชาติเผ็ดกรอบ มีกลิ่นฉุนเฉพาะตัว
มีประโยชน์และสรรพคุณ ทางยาหลายอย่าง สามารถรับประทานสดได้ ทำเครื่องดื่มได้ นำมาประกอบอาหารเมนูต่างๆ ได้หลายเมนู