ผอมแบบไม่ต้องพึ่งยา! 10 ทริค ที่จะช่วยให้ลดน้ำหนักได้เร็วขึ้น แถมยังดีต่อสุขภาพ

ใครที่กำลังพยายามลดน้ำหนัก แต่ก็ไม่ลงซักที หรือลงช้าไม่ทันใจ อีกไม่กี่เดือนก็จะเปิดเทอม เข้ามหา’ลัย กลัวจะใส่กระโปรงสอบแล้วไม่สวย หรือใครที่เดือนหน้าต้องไปงานแต่งเพื่อนสาว กลัวจะยัดร่างลงไปในชุดสวย ๆ ไม่ได้ ลองเอาทริคเหล่านี้ไปใช้กันดู ไม่เสียสุขภาพแน่นอน!

10 ทริค ช่วยให้ลดน้ำหนักได้เร็วขึ้น

รองท้องก่อนมื้อหลัก

มีหลายงานวิจัยที่แสดงให้เห็นว่า การกินอาหารที่มีไฟเบอร์สูง อย่างแอปเปิ้ล ซักครึ่งชั่วโมงก่อนมื้ออาหารจะช่วยให้เรากินได้น้อยลง นอกจากนี้ซุปซักถ้วย ก่อนมื้ออาหารก็ช่วยได้เช่นกัน เพราะกว่าซุปร้อน ๆ จะหายร้อน แถมยังจะต้องกินอย่างช้า ๆ ก็จะทำให้สมอง ฮอร์โมน และกระเพาะอาหารได้มีเวลาประมวลผลว่าเรา ‘อิ่ม’ จนอาจจะทำให้เราอิ่มทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้กินอาหารจานหลักเลยด้วยซ้ำ

กินเผ็ด

ข่าวดีสำหรับคนที่ชอบกินเผ็ด เวลาที่กินของเผ็ด เราจะกินช้าลง ซึ่งเป็นผลดีต่อการเผาผลาญของร่างกายอีกด้วย ร่างกายของเราจะเผาผลาญได้ดีขึ้นถึง 8% เวลาที่กินเผ็ด

อาหารว่างแบบเฮลตี้

ขนมในที่นี้ไม่ใช่คุ้กกี้ ขนมเค้ก หรือขนมซองต่าง ๆ แต่หมายถึง ขนมเพื่อสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นอัลมอนด์ เมล็ดทานตะวัน หรือแครกเกอร์โฮลวีท ที่กินได้บ่อย ๆ แบบไม่ต้องรู้สึกผิด โดยเฉพาะช่วงสาย ๆ บ่าย ๆ ที่ท้องเริ่มร้อง ก็หาขนมเหล่านี้มากินซะ เพราะถ้าปล่อยให้หิวจัด ๆ พอถึงเวลากินข้าว คุณก็จะยิ่งกินเร็ว กินได้เยอะแบบไม่รู้ตัว

นอนเยอะ ๆ

ขณะที่เรานอนหลับ ระดับฮอร์โมนในร่างกายของเราจะคงที่ โดยเฉาะโกรทฮอร์โมนที่ช่วยสร้างกล้ามเนื้อขณะเรานอนหลับ และเมื่อเรามีกล้ามเนื้อเยอะ ร่างกายก็จะยิ่งเผาผลาญได้มากขึ้น และที่สำคัญการอดหลับอดนอน หรือนอนน้อย จะทำให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนเกรลิน หรือฮอร์โมนความหิวออกมาเยอะ ลองสังเกตสิ วันไหนที่นอนน้อย ๆ นอกจากจะง่วง จะเพลียแล้ว คุณยังหิวและกินเก่งขึ้นด้วย  นอกจากนี้ยิ่งนอนเร็วเท่าไหร่ เราก็จะไม่ต้องท้องร้องตอนดึก  ๆ อีกด้วยนะ

ดื่มชาแทนน้ำ

ดื่มน้ำวันละ 8 แก้วดีต่อร่างกายก็จริง แต่ถ้าคุณกำลังลดน้ำหนัก ขอแนะนำให้ดื่ม ‘ชา’ ไม่ว่าจะเป็นชาดำ ชาสมุนไพรต่าง ๆ แต่ที่ดีสุด ๆ คือ ชาเขียว ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระที่เป็นผลดีต่อการลดน้ำหนัก แต่ชาในที่นี้ต้องเป็นชาแท้ ๆ ไม่ใช่แบบขวดขายตามร้านสะดวกซื้อ ที่ใส่น้ำตาลจนหวานหยดย้อยนะ ไม่งั้นจะกลายเป็นการเพิ่มน้ำหนักแทนได้

สีน้ำเงินช่วยได้

การวิจัยพบว่า คนเราจะกินได้น้อยลงเมื่อสีของจาน หรือบรรยากาศรอบ ๆ มีความแตกต่างกับสีของอาหารมาก ๆ นั่นคือสีฟ้า หรือน้ำเงิน โดยพบว่าคนจะกินได้น้อยลงถึง 33% เมื่อกินอาหารในห้องที่ทาผนังสีน้ำเงิน

อย่าทำหลายอย่างในเวลาเดียวกัน

เวลาที่กินไปด้วย ทำอย่างอื่นไปด้วย ไม่ว่าจะอ่านหนังสือ ดูทีวี เล่นเฟซบุ๊ก หรืออื่น ๆ เราจะไม่ได้โฟกัสที่อาหารที่เรากำลังกินเพียงอย่างเดียว รวมถึงการทำกิจกรรมหลาย ๆ อย่างพร้อมกันก็ด้วย อาจจะทำให้เราเผลอคิดถึงปิ้งย่าง หรือบิงซูถ้วยโตก็เป็นได้ นอกจากนี้ยังอาจจะทำให้เราเผลอหยิบเลย์ขึ้นมาฉีกซองอย่างไร้สติอีกด้วยนะ

ขำ ๆ

เมื่อเราหัวเราะ ร่างกายจะได้ออกกำลังแบบแอโรบิค (แบบใช้ออกซิเจนช่วยในการเผาผลาญไขมันไปใช้เป็นพลังงาน) หัวใจจะเต้นเร็วขึ้น การหัวเราะติดต่อกันเป็นเวลา 1 ชั่วโมง จะเผาผลาญพลังงานได้เท่ากับการยกน้ำหนัก 30 นาทีเลยทีเดียว

นอนเปิดแอร์เย็น ๆ

การนอนในห้องแอร์ หรือที่ที่อากาศเย็น ร่างกายจะเผาผลาญไขมันที่สะสมอยู่ในพุงน้อย ๆ ของเรา เพื่อให้ร่างกายเกิดความอบอุ่น จากการศึกษาพบว่า คนที่นอนในห้องที่มีอุณหภูมิราว ๆ 66 องศาฟาเรนไฮต์ หรือ ประมาณ 18 องศาเซลเซียส ร่างกายจะเผาผลาญได้กว่าคนที่นอนในห้องอุณหภูมิปกติถึง 7%

ปิดไฟนอน

อาจจะฟังดูแปลก แต่ขอบอกเลยว่าจริง บางคนชอบนอนเปิดไฟ อาจจะเพราะกลัวผี หรืออะไรก็แล้วแต่ การนอนหลับในที่มืดสนิทนอกจากจะช่วยให้หลับสนิทแล้ว ยังช่วยให้เราลดน้ำหนักได้ไวขึ้นอีกด้วย นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยแห่งรัฐโอไฮโอ (Ohio State University) พบว่าการนอนปิดไฟจะช่วยให้ลดน้ำหนักได้เร็วขึ้น การนอนเปิดไฟจะกระตุ้นให้ร่างกายผลิต เมลาโทนิน ที่จะทำให้หลับไม่สนิท และทำให้ร่างกายยิ่งเผาผลาญได้น้อยลง

ขอบคุณข้อมูลจาก: brightside, forbes

บทความแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง