โพแทสเซียม เป็นแร่ธาตุที่สามารถช่วยควบคุมความสมดุลของน้ำในร่างกายของเราให้อยู่ในปริมาณที่พอดีต่อความต้องการของร่างกาย ช่วยทำให้การเต้นของหัวใจเป็นปกติ ช่วยลดความดันโลหิต ช่วยรักษาอาการภูมิแพ้ ช่วยทำให้เรารู้สึกมีความสุข มีจิตใจที่แจ่มใส และยังช่วยกำจัดของเสียต่าง ๆ ในร่างกายได้อีกด้วย จึงไม่แปลกเลยที่ โพแทสเซียม จะเป็นแร่ธาตุที่มีความสำคัญต่อร่างกายเป็นอย่างมาก
5 อาการของคนที่กำลังขาด โพแทสเซียม
ถ้าหากเราได้รับโพแทสเซียมในปริมาณที่ไม่พอต่อความต้องการของร่างกายในการทำงานของเส้นประสาทและกล้ามเนื้อก็จะทำให้ร่างกายของเราได้รับผลเสียตามไปด้วย และเราจะรู้ได้อย่างไรว่าตอนนี้ร่างกายของเรากำลังขาดโพแทสเซียมอยู่หรือเปล่า มาหาคำตอบไปพร้อม ๆ กันเลย
1. รู้สึกเหนื่อยล้าตลอดเวลา
Lauren Blake นักโภชนาการแห่งศูนย์การแพทย์ Wexner ที่มหาวิทยาลัยโอไฮโอสเตต กล่าวว่า เซลล์ทุกเซลล์ในร่างกายของเราต้องการปริมาณโพแทสเซียมที่เหมาะสมสำหรับในการทำงาน หากเรารู้สึกเหนื่อยหรือเมื่อยล้าอยู่ตลอดเวลา ทั้งที่เราก็นอนหลับและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอแล้ว แต่ก็ยังไม่หายจากอาการเหนื่อยให้คิดได้เลยว่าเรากำลังสู่การขาดโพแทสเซียมแล้ว ควรรีบเติมด่วนเลย
2. รู้สึกจุกหรือกล้ามเนื้ออ่อนแรง
โพแทสเซียม มีบทบาทสำคัญต่อกล้ามเนื้อเรียบไปจนถึงหัวใจ และทั่วร่างกาย ดังนั้นถ้าหากระดับโพแทสเซียมในร่างกายของเราต่ำกว่าเกณฑ์ก็จะทำให้เรามีอาการปวดเมื่อยหรือมีอาการกระตุกบริเวณต่าง ๆ ของร่างกาย
3. รู้สึกเวียนหัว หรือ หน้ามืด
สำหรับปริมาณโพแทสเซียมในร่างกายของเราสามารถที่จะขึ้น ๆ ลง ๆ ได้ตลอดทั้งวัน และการลดลงอย่างกระทันหันของโพแทสเซียมหรือลดลงเป็นปริมาณมาก ๆ ในครั้งเดียวจะส่งผลทำให้หัวใจเต้นช้าลง และจะทำให้เรามีอาการวิงเวียนศีรษะ โลกหมุน หรือมีอาการหน้ามืด เมื่อมีอาการแบบนี้ควรไปพบแพทย์ในทันที
4. มีอาการใจสั่น
หากในร่างกายมีปริมาณของโพแทสเซียมไม่เพียงพอ จะทำให้ผนังหลอดเลือดหดตัว ส่งผลทำให้เกิดความดันโลหิตสูง มีอาการใจสั่น และในที่สุดก็ส่งผลเสียต่อสุขภาพ ถ้าเพื่อน ๆ คนไหนที่มีอาการแบบนี้ควรไปพบแพทย์โดยด่วน
5. แน่นท้อง หรือ ท้องอืด
ระดับโพแทสเซียมต่ำ ส่งผลทำให้ร่างกายของเราต้องทำการควบคุมระดับโซเดียมด้วย และอาจจะทำให้เกิดอาการท้องอืดหรือรู้สึกเป็นตะคริวในช่องท้องได้
รู้อย่างงี้แล้ว เราก็ควรที่จะต้องหันมารับประทานอาหารที่มีโพแทสเซียมอยู่เยอะ ๆ กันมากยิ่งขึ้น เช่น ผลไม้รสเปรี้ยว แคนตาลูป กล้วย มันฝรั่ง มะเขือเทศ เมล็ดทานตะวัน และผักใบเขียวทุกชนิด เป็นต้น
ที่มา : www.health.com