นอกจากจะมีสีสันสวยงามแล้ว แก้วมังกร ยังอุดมไปด้วยประโยชน์ที่ดีทั้งต่อสุขภาพร่างกาย และสุขภาพผิว ถือเป็นผลไม้ที่คนรักสุขภาพไม่ควรมองข้ามเลยล่ะค่ะ ความดีงามจะมีอะไรบ้างนั้น Health-Campus-star ขอสรุปมาให้เพื่อนๆ ได้อ่านเป็นเกร็ดความรู้กันค่ะ
ข้อดีของ แก้วมังกร รู้แล้วต้องหามากินด่วน!
แก้วมังกร หรือ Dragon fruit เริ่มเข้ามาในไทยเมื่อปี 2540 เป็นไม้ในตระกูลกระบองเพชร สามารถปลูกได้ทั่วประเทศ ในไทยส่วนมากจะนิยมปลูกที่ จังหวัดจันทบุรี ชลบุรี กาญจนบุรี สระบุรี และสมุทรสงคราม ลักษณะของลูกแก้วมังกรที่ผลมีกลีบ ภายในผลเมื่อผ่าออกจะมีเนื้อสีขาวขุ่น ชมพู แดง หรือแดงอมม่วง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์นั้น ๆ เมล็ดมีขนาดเล็กสีดำ ลักษณะคล้ายเมล็ดงา
– แก้วมังกรเหมาะสำหรับคนควบคุมน้ำหนัก เพราะเป็นผลไม้ที่ให้พลังงานต่ำ (ประมาณ 50 – 60 กิโลแคลอรี/100 ก.) น้ำตาลที่พบส่วนใหญ่เป็นน้ำตาลกลูโคส ฟรุกโตส และซูโครส
– ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย ซึ่งมีส่วนช่วยในการชะลอวัย ความแก่ชรา และริ้วรอยต่าง ๆ บำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่ง สดใส ชุ่มชื่น
– ในเนื้อของแก้วมังกรมีวิตามินซี ใยอาหาร และโพแทสเซียมสูง โดยวิตามินซีมีส่วนช่วยในการกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน ใยอาหารช่วยให้รู้สึกอิ่มนาน ช่วยปรับสมดุลของแบคทีเรียในลำไส้ แก้ปัญหาการขับถ่ายต่าง ๆ ให้ดีขึ้น เสริมสร้างการทำงานของระบบกำจัดของเสียในร่างกายให้ดียิ่งขึ้น
– ช่วยบำรุงกระดูกและฟันของคุณให้แข็งแรง มีส่วนในการช่วยรักษาโรคเบาหวาน บรรเทาอาการความดันโลหิต โรคโลหิตจาง
– สามารถทานสดๆ หรือจะนำไปผสมกับน้ำปั่นเย็นๆ ก็ได้ ดื่มแล้วช่วยดับร้อน ดับกระหายได้เป็นอย่างดี
– สารสำคัญที่พบในแก้วมังกรคือสารในกลุ่ม betalains โดยจะพบทั้งในส่วนเปลือก และในเนื้อผลที่มีสีแดงหรือแดง-ม่วง ในทางอุตสาหกรรมนิยมนำสารกลุ่มดังกล่าวมาทำเป็นสีผสมอาหารเพราะมีความปลอดภัยสูง
– การศึกษาฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาในหลอดทดลอง และสัตว์ทดลองพบว่าแก้วมังกรมีฤทธิ์ต้านจุลชีพก่อโรคหลายชนิด มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ต้านเซลล์มะเร็ง ต้านการอักเสบ ลดไขมันในเลือด ต้านภาวะเบาหวาน ลดภาวะดื้อต่ออินซูลิน และช่วยปกป้องตับจากสารพิษ
Tips: เกร็ดความรู้เพิ่มเติม
– ควรรับประทานอย่างพอประมาณ หรือวันละไม่เกิน 1 ลูก ไม่ใช้แค่แก้วมังกรผลไม้ชนิดอื่นๆ ก็เช่นกันค่ะ ไม่ควรรับประทานผลไม้เดิม ๆ ซ้ำ ๆ ติดต่อกันหลายวัน ตามหลักโภชนาการ เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารครบถ้วนและพอดี
– ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ หรือผู้ที่ต้องควบคุมระดับโพแทสเซียมในเลือดต้องระมัดระวังในการทาน เนื่องจากผลไม้ชนิดนี้มีโพแทสเซียมสูง
– หากทานแก้วมังกรที่มีเนื้อสีแดงเข้มหรือสีแดงเข้มอมม่วง แล้วอุจจาระหรือปัสสาวะมีสีแดงคล้ายกับมีเลือดปนออกมาอย่าเพิ่งตกใจ เพราะในเนื้อของแก้วมังกรมีสารกลุ่ม betalains ที่มีสีแดง จึงทำให้อุจจาระหรือปัสสาวะมีสีแดง หรือที่เรียกว่าภาวะสีเลือดเทียมในปัสสาวะ (pseudohematuria) แต่สารดังกล่าวไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ
ขอบคุณข้อมูลจาก: สำนักงานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
Written by : Thexyz
บทความที่เกี่ยวข้อง
– สิ่งดีๆ ในรสหวานซ่อนเปรี้ยว 7 ประโยชน์ของ สับปะรด | สบายท้อง แก้นิ่ว ผิวสวย
– ต้องกินซะแล้ว! 10 ประโยชน์ เสาวรส (Passion Fruit) | ผิวเต่งตึง เสริมภูมิคุ้มกัน