ทำความรู้จัก ผักเคล (Kale) ราชินีผักใบเขียว – คุณค่าที่คนรักสุขภาพคู่ควร

จากคำกล่าวที่ว่า ‘YOU ARE WHAT YOU EAT’ กินอะไรก็จะเป็นอย่างนั้น ทำให้หลายคนหันมาดูแลสุขภาพอาหารการกินกันมากขึ้น ลดการรับประทานอาหารจำพวกฟาสฟู๊ด อาหารใส่ผงชูรส หรืออาหารที่ผ่านการปรุงเยอะๆ แล้วหันมาเลือกทานอาหารประเภทที่ให้สารอาหารเยอะ แต่แคลลอรี่หรือไขมันต่ำ (ผักเคล (Kale) ราชินีผักใบเขียว)

ผักเคล (Kale) ราชินีผักใบเขียว

คนรักสุขภาพจึงเลือกทานอาหารประเภทที่ให้สารอาหารเยอะ อาทิ เมล็ดเจีย ข้าวโอ๊ต คีนัว ผักผลไม้ต่างๆ โดยอาหารที่กำลังฮิตในหมู่คนรักสุขภาพนั่นคือ “ผักเคล (Kale) หรือ ผักคะน้าใบหยัก” นั่นเอง วันนี้แคมปัส-สตาร์จะพาไปทำความรู้จักเจ้าผักเคลให้มากขึ้นกันค่ะ

ผักเคล คืออะไร?

ผักเคล (Kale) หรือ ผักคะน้าใบหยัก เป็นพืชตระกูลเดียวกับผักจำพวก บร็อคเคอรี่ คะน้า และดอกกะหล่ำ มีลักษณะสีเขียวเข้ม ใบหยิก เป็นที่นิยมอย่างมากในต่างประเทศ และถูกยกให้เป็น ‘Superfood’ เพราะอุดมไปด้วยวิตามินและสารต้านอนุมูลอิสระมากมาย อาทิ โอเมก้า 3 แมกนีเซียม แคลเซียม เหล็ก โซเดียม โพแทสเซียม วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินเค วิตามินบี 6 เป็นต้น

ทำไมต้องผักเคล

หลังจากที่นักวัทยาศาสตร์ได้ค้นพบประโยชน์มากมายจากผักแคล ก็ทำให้ผักชนิดนี้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย หลายคนลองรับประทานและเห็นผลที่ดีต่อร่างกาย จึงเกิดการบอกต่อกันไปเรื่อยๆ กลายเป็นกระแสในหมู่ของคนรักสุขภาพ เพราะผักเคลไม่เหมือนกับผักธรรมดาทั่วไป เป็นผักที่มีสารอาหารมากแต่น้ำตาลน้อย จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่รักสุขภาพหรือผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักนั่นเอง

อีกทั้งผักเคลยังให้คาร์โบไฮเดรตที่มีค่า Glycemic Index (GI) ต่ำ ซึ่งเป็นหน่วยวัดผลของคาร์โบไฮเดรตต่อระดับน้ำตาลในเลือด หากมีค่า GI สูง หมายถึงคาร์โบไฮเดรตจะแตกตัวอย่างรวดเร็วในระหว่างการย่อยอาหาร ทำให้กลูโคสเข้าสู่ระบบไหลเวียนโลหิตอย่างรวดเร็ว หากมีค่า GI ต่ำ หมายถึงคาร์โบไฮเดรตจะแตกตัวอย่างช้าๆ ค่อยๆ ให้กลูโคสเข้าสู่ระบบไหลเวียนโลหิตอย่างสม่ำเสมอ ดังนั้นอาหารที่มีค่า GI ต่ำมีประโยชน์ต่อสุขภาพ

นอกจากนี้ผักแคลยังเป็น ‘ตัวล้างสารพิษจากธรรมชาติ’ เช่นเดียวกับ สไปรูลิน่า เพราะมีไฟเบอร์และซัลเฟอร์ ที่ช่วยดึงสารพิษสะสมและกำจัดออกจากร่างกาย อาทิ สารตกค้างจากอาหารแปรรูป มลภาวะ ยาฆ่าแมลง และสารพิษตกค้างจากยา ซึ่งถ้าสะสมมากในร่างกายก็จะเพิ่มโอกาสในการเกิดโรค

ประโยชน์ของผักเคล

คุณค่าทางโภชนาการของผักเคล ต่อ 100 กรัม (อ้างอิงจาก:ndb.nal.usda.gov)

วิธีรับประทานผักเคล

ผักเคล ามารถรับประทานสดๆ ได้เลย แต่อาจจะมีรสออกขมๆ และใบค่อนข้างหนา อาจจะรับประทานยากกว่าผักสลัดทั่วไป หากรับประทานแบบ ‘เบบี้เคล’ จะทานง่ายกว่า ซึ่งเป็นผักเคลมีอายุการปลูกประมาณ 60 วัน หรือสามารถนำมาประกอบอาหารได้หลายประเภททั้งต้ม ทอด ผัด แต่วิธีที่นิยมทำมากที่สุดคือ ‘การนำผักเคลมาปั่นเป็นเครื่องดื่มสมูตตี้’  ผสมกับผลไม้รสเปรี้ยว เช่น แอปเปิ้ลเขียวหรือกีวี่ ทำให้ทานง่ายยิ่งขึ้น

ข้อควรระวังในการรับประทานผักเคล

ทุกสิ่งบนโลก ถ้ามากเกินไปหรือน้อยเกินไปก็อาจให้โทษได้ ดังนั้นจึงควรรับประทานผักเคลแบบพอดีๆ เพราะในผักเคลมีสาร ‘Goitrogen‘ ซึ่งมีฤทธิ์ในการยับยั้งการสร้างฮอร์โมนในต่อมไทรอยด์ ทำให้ร่างกายนำไอโอดีนในเลือดไปใช้ได้น้อยกว่าปกติ หากได้รับสารชนิดนี้มากเกินไปจะทำให้มีอาการท้องอืดและร่างกายได้ขาดสารไอโอดีน นำไปสู่โรคคอพอกได้ ส่วนผู้ที่เป็นโรคคอพอกอยู่แล้ว ก็ไม่ควรรับประทานมากเกินไป หรืออาจปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อขอคำแนะนำในการับประทาน

บทความแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง