อันตรายจาก นอนตอนผมเปียก – นึกภาพเลย ว่านอนกับแบคทีเรีย กว่า 1 ล้านชั่วโมง!

เคยมั้ยคะ กลับถึงบ้านเหนื่อย ๆ ลากตัวเองเดินเข้าห้องน้ำ อาบน้ำสระผมเสร็จก็อยากจะหัวถึงหมอนไว ๆ จนลืมคิดไปว่าผมยังไม่แห้ง บางคนอาจจะคิดว่าไม่เป็นไร แต่จริง ๆ แล้ว แบคทีเรียที่เกิดจากความชื้นจากผมของเรามันร้ายกว่าที่คุณคิดนะคะ

อันตรายจากการ นอนตอนผมเปียก

หมอนชื้น ๆ ใบนั้นเป็นแหล่งเพาะพันธุ์แบคทีเรียชั้นดีเลยล่ะ

ขอโทษนะคะที่จะต้องทำลายความสุขในการนอนของคุณ เมื่อคุณนอนไปทั้ง ๆ ที่ผมยังเปียกอยู่ ก็จะทำให้หมอนได้รับความชื้นจากเส้นผม นั่นล่ะค่ะ แหล่งเพาะแบคทีเรียชั้นดีเลย แล้วแบคทีเรียพวกนั้นมันร้ายนะคะ เพราะมันจะส่งผลเสียให้กับร่างกายเราหลายอย่าง

เป็นไข้

จริง ๆ แล้วการนอนทั้ง ๆ ที่ผมยังไม่แห้งจะไม่ทำให้เกิดไข้หวัด ถ้าอุณหภูมิไม่เหมาะสม แต่เกิดจากแบคทีเรียที่เข้าไปตั้งรกรากอยู่ในหมอนที่เราเอาหน้าซุกอยู่ทุกคืนนั่นเอง ทั้งหู ตา จมูกปาก พูดง่าย ๆ คือมีช่องทางให้แบคทีเรียเลือกเข้าไปในร่างกายได้อย่างง่ายดายเลยล่ะ

ติดเชื้อแบคทีเรีย

ผิวหนังที่โดนความชื้นอาจจะเกิดการติดเชื้อได้ ที่เห็นได้ทั่วไปก็จะเป็นรังแคที่คอยรังควาน หรือถ้าแอดวานซ์ขึ้นมาหน่อยก็จะเป็นเชื้อราบนหนังศีรษะที่ทั้งคันทั้งไม่น่ามอง

สุขภาพและรูปลักษณ์

ผมและผิวหนังของคุณก็เป็นหนึ่งในเหยื่อของพฤติกรรมที่เกิดจากความขี้เกียจนี้เช่นกัน ถ้าคุณมีสุขภาพผมที่ไม่ดี การนอนทั้ง ๆ ที่ผมยังเปียก ก็จะทำให้ผมคุณลีบแบน หรือกระดกเป็นหางเป็ด นอกจากผมแล้ว ผิวหนังของคุณก็เช่นกัน เพราะแบคทีเรียจะทำให้ผิวของคุณแย่ลง ถ้าเบา ๆ ก็เริ่มจากผิวแห้ง แต่ถ้าเป็นหนักหน่อยก็อาจจะคัน ๆ หน่อย หรืออาจถึงขั้นติดเชื้อกันเลยทีเดียว

นอกจากนี้การที่เรานอนแบบผมเปียกนั้น จะเกิดความแตกต่างของอุณหภูมิในร่างกาย และเส้นผมที่ยังเปียกอยู่ทำให้เกิดปัญหาตามมาอย่าง อาการปวดหัว และตะคริวนั่นเอง

เราใช้เวลา 1 ใน 3 ของชีวิตไปกับการนอนกับแบคทีเรียจริง ๆ หรอ!?

ลองคำนวณดูสิ คนส่วนใหญ่ใช้เวลานอนในแต่ละวัน 8 ชั่วโมง ซึ่งคิดเป็น 1 ใน 3 วัน สัปดาห์นึงก็ 56 ชั่วโมง 1 ปี ปาเข้าไป 2,912 ชั่วโมง ยังไงคะ เริ่มเชื่อกันหรือยัง และถ้าจะต้องมีชีวิตยู่บนโลกนี้จนอายุ 75 ปี คุณจะใช้เวลานอนทั้งหมดถึง 218,400 ชั่วโมง!

ทำไมคนเราถึงนอนทั้งผมเปียก ๆ แบบนั้นล่ะ?

คุณอาจจะคิดว่าคุณก็ไม่ได้นอนแบบผมเปียก ๆ ทุกวันซะหน่อย แต่รู้หรือไม่ว่าเพียงสัปดาห์ละครั้งถึงสองครั้งก็ไม่ดีแล้ว จริง ๆ แล้ว สาเหตุที่ทำให้หลายคนทำแบบนั้นก็เป็นเหตุผลที่เข้าใจได้ ไม่ว่าจะเป็น

มันต้องใช้ความพยายามมากเหลือเกินที่จะทำให้ผมแห้ง

หลังจากที่เหนื่อยมาทั้งวัน สิ่งที่คุณต้องการก็เพียงแค่ได้อาบน้ำสระผม ชำระร่างให้หายเหนียว แต่ถ้าจะต้องมานั่งเป่าผม หรือนั่งเปื่อยรอให้ผมแห้งมันก็ยากเหลือเกิน สิ่งเดียวที่คิดได้ คือ จะนอน! หลายคนเลยเลือกที่จะปล่อยให้มันไว้แบบเปียก ๆ หวังว่ามันจะใช้เวลาทั้งคืนแล้วจะแห้งเอง แต่บางคนอาจจะสังเกตได้ว่าถ้าวันไหนที่เรานอนแบบผมเปียก ตื่นเช้ามา ผมก็ยังไม่แห้งดีเลย คิดดูสิคะว่ามันจะชื้นขนาดไหน..

ทั้งง่วงทั้งเหนื่อย

หลายคนเลือกที่จะปล่อยผมให้แห้งเอง โดยไม่ใช้ไดร์เป่า ถ้าคนไหนผมน้อยผมบางก็อาจจะแห้งไวหน่อย แต่ถ้าใครผมหนากว่าจะแห้งก็คงหลายชั่วโมง  “ง่วงจะตาย นอนเลยละกัน ไม่เป็นไรหรอก” หลายคนจึงเลือกที่จะนอนไปแบบนั้น แบบที่ผมยังเปียก แบบที่มันไม่ดีนั่นล่ะค่ะ

ไม่อยากใช้ไดร์เป่าผม

หลายคนไม่ชอบใช้ไดร์เป่าผม เลยเลือกที่จะนอนทั้ง ๆ ที่ผมยังเปียก โดยเฉพาะคนที่บำรุงฟื้นฟูผมแห้งเสียอยู่ ยิ่งเลี่ยงที่จะใช้ไดร์เป่าผม เพราะจะยิ่งทำให้ผมแห้งเสียมากขึ้น

แล้วจะทำยังไงดี?

สระผมตอนเช้า

แน่นอนว่าวิธีนี้จะทำให้คุณไม่ต้องกังวลว่าผมจะไม่แห้ง เพราะถึงคุณจะไม่มีเวลาไดร์ให้แห้งในตอนเช้า แต่ถึงยังไงระหว่างวันออกไปเจอลม เจอแดด ผมก็จะแห้งไปเอง จริง ๆ แล้วการสระผมในตอนเช้ายังมีข้อดีหลายอย่าง นอกจากจะช่วยให้รู้สึกสดชื่น ร่างกายตื่นตัวแล้วยังเป็นการขับพิษในร่างกายอีกด้วย

วางผ้าแห้งไว้บนหมอน

ถ้าเลี่ยงไม่ได้จริง ๆ ยังไงก็ต้องสระผมตอนกลางคืน แต่จะให้รอแห้งก็ไม่ไหว ก็นอนมันทั้งอย่างนั้นไปเลยค่ะ แต่อย่าลืมหาผ้าขนหนูผืนเล็กแห้ง ๆ มาวางรองบนหมอนก่อนจะล้มตัวลงนอนด้วยล่ะ

บทความแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง