สุขภาพเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม เจ็บป่วยเป็นเรื่องธรรมดาก็จริง แต่เราก็ต้องดูแลตัวเองด้วย! โดยเฉพาะสาว ๆ อย่างเรา ยิ่งต้องดูแลตัวเองเป็นพิเศษ ไปดูกันว่า มีโรคไหนบ้าง ที่มาแบบเงียบ ๆ แต่เป็นทีทรม๊านทรมาน
3 โรคใกล้ตัว มาแบบเงียบ ๆ สาว ๆ ต้องระวัง
เนื้องอกในมดลูก
ปวดท้องเมนส์มาก ๆ หรือเมนส์มาไม่ปกติ สาว ๆ เกือบครึ่งค่อนประเทศต้องเจอกับปัญหานี้กันอยู่ทุกเดือน แต่ก็ไม่ยอมไปตรวจ เพราะคิดว่าเป็นเรื่องปกติ สำหรับเนื้องอก ใครโชคดีหน่อยก็เป็นก้อนเนื้อธรรมดา แต่ถ้าโชคร้ายมาก ๆ ก็อาจกลายเป็นมะเร็งได้
อาการ
– ปวดท้องน้อยรุนแรงทุกครั้งที่เป็นเมนส์
– ในช่วงที่เป็นเมนส์ มีเลือดออกมาเยอะผิดปกติ ต้องเปลี่ยนผ้าอนามัยวันละหลาย ๆ แผ่น
– ปวดฉี่บ่อย
– ท้องผูก
– สำหรับคนที่อยากมีลูกการมีบุตรยากหรือแท้งบุตรง่าย
– อาจจะคลำเจอก้อนที่ท้องได้ด้วยตนเอง
สาเหตุ
จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีใครทราบสาเหตุที่แท้จริงว่าเกิดขึ้นจากอะไร แต่มีการสันนิษฐานว่าอาจเกิดจากพันธุกรรม ใครที่มีแม่ หรือญาติเป็นก็ลองไปตรวจไว้หน่อยก็ไม่เสียหายนะ แล้วถ้าใครตรวจเจอว่ามีเนื้องอกก็ไม่ต้องตกใจไป เพราะโอกาสที่เนื้องอกจะพัฒนาเป็นเซลล์มะเร็งมีแค่ 1 ใน 1,000 เท่านั้น
กระเพาะปัสสาวะอักเสบ
โรคนี้ไม่ใช่โรคผู้หญิงโดยเฉพาะ แต่มักจะเกิดกับผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย เพราะท่อปัสสาวะของผู้หญิงจะสั้น และอยู่ใกล้ทวารหนัก ทำให้ติดเชื้อได้ง่าย ๆ สาว ๆ มีโอกาสเป็นโรคนี้ในทุกช่วงของชีวิตกันทุกคน ตั้งแต่วัยเด็กจนถึงวัยสูงอายุ
อาการ
– ปวดฉี่บ่อย ลุกเข้าห้องน้ำทุกชั่วโมง หรือชั่วโมงละหลาย ๆ รอบ
– ขัดเบา หรือฉี่กะปริบกะปรอย รู้สึกเหมือนฉี่ไม่สุด แต่ก็ฉี่ไม่ออก
– ฉี่มีสีขุ่น กลิ่นเหม็นผิดปกติ บางคนอาจจะมีเลือดปนออกมา
– รู้สึกปวดแสบตอนที่ฉี่
– ปวดท้องน้อย
สาเหตุของโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ
โรคนี้เกิดจากการที่อวัยวะในระบบทางเดินปัสสาวะ เกิดการอักเสบจากการติดเชื้อ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการติดเชื้อแบคทีเรีย
– การล้างน้องสาวไม่ถูกวิธี ควรจะทำความสะอาดจากด้านหน้าไปด้านหลัง เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อโรคจากก้นเข้าสู่ท่อปัสสาวะ
– อั้นฉี่บ่อย ๆ
– ติดเชื้อจากการมีเพศสัมพันธ์
– สาว ๆ (ที่ไม่สาว) วัยหมดประจำเดือน การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนก็มีส่วนทำให้ความชุ่มชื้นบริเวณเยื่อบุช่องคลอดและเยื่อบุท่อปัสสาวะที่เป็นตัวช่วยป้องกันการติดเชื้อลดลง ทำให้ติดเชื้อได้ง่ายขึ้น
สาว ๆ ที่สงสัยว่าตัวเองเป็น เบื้องต้นสามารถรักษาด้วยตัวเองได้ โดยการดื่มน้ำเยอะ ๆ เลี่ยงอาหารที่ระคายเคืองต่อกระเพาะปัสสาวะ เช่น กาแฟ แอลกอฮอล์ น้ำอัดลม ปวดฉี่ก็ต้องฉี่ห้ามอั้นเด็ดขาด ที่สำคัญไม่ควรซื้อยากินเอง แต่ถ้าเป็นหลายวันแล้วยังไม่หาย มีอาการปวดบั้นเอว แถมเริ่มมีไข้สูง ก็ต้องไปหาหมอเพื่อตรวจปัสสาวะ
เชื้อราในช่องคลอด
เชื้อราในช่องคลอด หรือ Yeast Infection เป็นอีกหนึ่งโรคที่สาว ๆ เป็นกันเยอะ แต่ไม่ค่อยมีใครพูด เพราะคิดว่าเป็นเรื่องน่าอาย ก็มันคัน ‘ตรงนั้น’ นี่หน่า! ใครจะกล้าบอก บอกไปเดี๋ยวเขาก็หาว่า เราสกปรกบ้างล่ะ ไม่อาบน้ำ ไม่ล้างน้องสาวบ้างล่ะ แต่บอกได้เลยว่าโรคนี้สาว ๆ เกือบจะทุกคนเคยเป็นมาแล้วทั้งนั้น แต่อาจจะไม่มีใครมาเล่าให้ใครฟัง หรืออาจจะเป็นแล้วไม่รู้ว่าเป็นก็ได้ ลองมาเช็คอาการกันหน่อยดีกว่า
อาการ
– บริเวณปากช่องคลอดมีอาการบวม แดง
– คัน หรือระคายเคืองบริเวณช่องคลอดอย่างแรง (ทั้งปากช่องคลอด และภายในช่องคลอด) ถึงขั้นอยู่นิ่ง ๆ ไม่ได้
– มีอาการแสบร้อนบริเวณช่องคลอด โดยเฉพาะในขณะมีเพศสัมพันธ์ หรือตอนปัสสาวะ
– ตกขาวผิดปกติ ข้น จับตัวเป็นก้อน หรือใสผิดปกติ
– มีผื่นแดงทั้งภายใน และภายนอกช่องคลอด
สาเหตุของเชื้อราในช่องคลอด
– แพ้แผ่นอนามัย
– ฝนตกทั้งวัน ใส่กางเกงในชื้น ๆ
– ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นเยอะเกินไป
– ใส่กางเกงรัดเป้าเกินไป ไม่มีอากาศถ่ายเท ทำให้น้องสาวหายใจไม่ออก อับชื้น
โรคนี้ถือว่าเป็นโรคที่ไม่ได้รุนแรงมากเท่าไหร่ กินยา สอดยา ก็หายเองได้ ใครที่รู้สึกว่าตัวเองมีอาการตามที่ว่ามา ก็ลองไปหาซื้อยาตามร้านยาทั่วไป บอกเภสัชไปว่าเป็นเชื้อราในช่องคลอด แต่ถ้ารักษาด้วยตัวเองแล้วไม่หาย สุดท้ายก็ต้องไปหาหมอนะจ๊ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก: medthai, phyathai, samitivejhospitals
Written by: Typrn
บทความแนะนำ
- ไม่อยากเป็นลมต้องรู้ ! กฏเหล็ก 7 ข้อในการออกกำลังกายหน้าร้อน
- นาฬิกาชีวิต กับภาวะซึมเศร้า – ผลการวิจัยชี้ คนนอนดึก มักมีอาการซึมเศร้า
- เช็กหน่อย เราเป็นไบโพลาร์หรือเปล่า ? พร้อมวิธีรับมือ กับอารมณ์แปรปรวนสุดขั้ว
- 10 ข้อปฏิบัติเพื่อการนอนหลับที่ดี | ทำอย่างน้อย 4 สัปดาห์ ช่วยแก้อาการนอนไม่หลับ
- ข้อดีของการนอนเปลือย – นอนเปลือย มีดีมากกว่าที่คิด