มาลองเช็คกันค่ะว่าเข้าข่ายเป็น โรคคิดว่าตัวเองไม่เก่ง หรือเปล่า หากคุณเข้าข่ายก็ควรรีบแก้ไข เพราะถ้าปล่อยนานๆ ไป จะนำไปสู่ปัญหาสุขภาพจิต หมดกำลังใจในการใช้ชีวิต และอาจเป็นโรคซึมเศร้าได้
เข้าข่ายเป็นมั้ย? โรคคิดว่าตัวเองไม่เก่ง (IMPOSTER SYNDROME)
1. กดดันตัวเองมากเกินไป ผิดพลาดแค่เรื่องเดียวไม่ได้
มีมาตราฐานสูงเกินไป กดดันให้ตัวเองเครียด ในความเป็นจริงคุณทำอะไรได้ประสบความสำเร็จดีอยู่แล้ว แต่ถ้ามีเพียงเรื่องเดียวเท่านั้นที่คุณทำแล้วไม่ประสบความสำเร็จอย่างที่หวังไว้ คุณจะตัดสินตัวเองทันทีว่าเป็นคนที่ไม่เก่ง ไร้ความสามารถ คุณต้องเปลี่ยนความคิดใหม่นะ ไม่มีใครที่ประสบความสำเร็จไปได้ทุกเรื่องหรอกในชีวิต คนเราก็ต้องมีผิดพลาดกันบ้างเป็นเรื่องธรรมดา
2. ทำงานไม่สนใจเวล่ำเวลา เพราะคิดว่ายังดีไม่พอ
คุณดูถูกตัวเองเลยแหละนะ คิดอยู่เสมอว่างานที่ทำยังดีไม่พอ คุณต้องให้ดีกว่านี้ยิ่งๆ ขึ้นไปอีก ไม่ว่าจะหามรุ่งหามค่ำแค่ไหน คุณไม่เกี่ยงหรอกว่าจะไม่ได้พักตราบใดที่คุณยังรู้สึกว่ามันยังดีไม่พอ คุณก็จะทำมันอยู่นั่นแหละ
3. กลัวความผิดพลาด วิตกไม่มั่นใจในสิ่งที่ทำ
คุณเตรียมการมาพร้อมแล้วสำหรับทุกอย่าง แต่คุณก็ยังจะหมกมุ่นอยู่กับความคิดว่าตัวเองจะทำไม่ได้ คิดวิตกกังวลไปก่อนล่วงหน้า รู้มั้ยว่าเป็นการบั่นทอนกำลังใจตัวเองไปเปล่าๆ ในเมื่อคุณเตรียมพร้อมมาดี คุณก็ต้องมั่นใจเข้าไว้ว่ายังไงก็ต้องทำได้ ไม่ใช่คิดว่าทำไม่ได้ กลัวไปหมดทุกอย่างแบบนี้กำลังใจเสียตั้งแต่ยังไม่เริ่ม
4. คิดว่าตัวเองทำได้ทุกอย่าง
คนเราต่างมีความเก่ง ความถนัด คนละด้าน ในบริษัทต่างๆ จึงต้องมีหลายหน้าที่ แต่คุณที่เข้าข่ายเป็นโรคคิดว่าตัวเองไม่เก่ง คุณจะคิดเสมอว่าต้องทำทุกอย่างให้ได้ด้วยตัวเอง และถ้าคุณเกิดทำไม่ได้ขึ้นมาคุณก็ไปคิดว่าตัวเองไม่เก่งไปอีก ทั้งที่จริงๆ แล้วคุณไม่จพเป็นต้องทำได้ทุกอย่างหรอกนะ ทำในสิ่งที่ตัวเองถนัดให้ออกมาดีก็พอแล้ว
5. ไม่กล้าออกจาก Comfort Zone
บางคนเกิดความเคยชิน อยู่ที่ไหนนานๆ ก็ไม่กล้าที่จะก้าวออกไป กลัวการเริ่มต้นใหม่ กลัวการเปลี่ยนแปลง บางครั้งการก้าวออกจากที่เดิมๆ มันอาจจะเป็นโอกาสทีทำให้ชีวิตคุณก้าวหน้ากว่าที่เป็นอยู่อย่างทุกวันนี้ก็ได้นะ!!
หากคุณเริ่มมีอาการดังกล่าว ค่อยๆ ปรับตัว อย่ามัวแต่วิตกกังวล อย่าดุถูกความสามารถตัวเอง มั่นใจและกล้าเผชิญเข้าไว้ หาเวลาออกไปเที่ยวพักผ่อนบ้าง และไม่ต้องไปเปรียบเทียบชีวิตตัวเองกับใคร เขียนไดอารี่เพื่อระบายบ้างก็ได้ หรือไปหาคุณหมอสุขภาพจิตเพื่อพูดคุยปรึกษาก็ได้นะคะ
Written by : Thexyz