มีวัตถุดิบมากมายบนโลกใบนี้ที่ดีต่อผิวหน้าของเรา แต่หลายอย่างก็ไม่ ของบางอย่างอาจจะเหมาะกับการใช้บำรุงจุดต่างๆ ของร่างกาย แต่ไม่ใช่ใบหน้า! อย่าลืมสิว่า ผิวหน้าของเราเป็นส่วนที่สำคัญ และอ่อนโยนมาก ถ้าพลาดทำอะไรผิดๆ ก็จะทำให้เกิดความเสียได้ วันนี้ Campus-Star จะมาแนะนำ 8 วัตถุดิบ “ต้องห้าม” ที่อย่าใช้ทา บนใบหน้า โดยเด็ดขาด!! รู้ไว้คุณจะได้ไม่เผลอเอาไปทาหน้า มีอะไรบ้างไปดูกัน
วัตถุดิบต้องห้ามใช้ทาหน้า…
1. เลม่อน
บางคนอาจจะติดความคิดที่ว่า น้ำมะนาวทำให้ผิวขาวใส นั่นก็จริงอยู่ แต่ว่า ไม่ใช่น้ำมะนาวเพียวๆ เพราะ ในตัวน้ำมะนาวนั้นมีกรดที่เป็นอันตรายต่อผิวหน้า ทำให้ผิวแห้ง หน้าไหม้ หรืออาจจะทำให้เป็นแผลได้
2. เบคกิ้งโซดา
บางสูตรมาส์กหน้าจะมีส่วนผสมของ เบคกิ้งโซดาเข้าไปด้วย เนื่องจาก มีกรดที่ช่วยทำความสะอาดใบหน้าของคุณ แต่ถ้าใช้มากๆ โดยขาดการบำรุงล่ะก็ มันจะทำให้หน้าของคุณแห้ง ทางที่ดีอย่าใช้ดีกว่า
3. ไข่
แปลกใจใช่มั้ยล่ะ! การใช้ไข่เพียวๆ มาส์หน้าถือว่าไม่เป็นอันตรายต่อผิว แต่เมื่อคุณผสมอย่าอื่นลงไปด้วยสิน่าเป็นห่วง ฉะนั้นอย่างเที่ยวผสมอะไรมั่วๆ แล้วทาหน้า ทางที่ดีควรศึกษาให้ดีเสียก่อนนะ
4. สเปรย์ฉีดผม
ใครจะไปเอาสเปรย์ฉีดผมมาใส่หน้า แต่มันเผลอโดนตอนที่ฉีดผมต่างหาก! แต่ก็มีผู้หญิงบางกลุ่มที่ใช้มันหลังจากแต่งหน้าเสร็จ เพื่อให้เมคอัพติดทนนาน ในสเปรย์ฉีดผมเต็มไปด้วยสารเคมีที่ไม่ดีต่อสุขภาพผิวหน้าของคุณ อย่าทำสิ่งที่ได้ไม่คุ้มเสียเลย
5. น้ำตาล หรือ เกลือ
น้ำตาล และ เกลือ เป็นวัตถุดิบที่ยอดเยี่ยมในการบำรุงผิวกายและในการปรุงอาหาร แต่ไม่ใช่กับผิวหน้า! เพราะ ผิวหน้าอ่อนโยนกว่า การที่ใช้น้ำตาลหรือเกลือทาบนใบหน้าอาจจะทำให้เจ็บผิว และผิวเป็นรอยได้
6. ชินนาม่อน หรืออบเชย
หลายคนยกให้ชินนาม่อนเป็นวัตถุดิบที่ดีที่สุดในการมาส์กหน้า เพราะ พวกมันช่วยให้บำรุงผิว รักษาสิว และรอยดำ แต่ถ้าใช้บ่อยๆ สารในชินนาม่อนจะทำให้ผิวของคุณแห้ง แดง และไหม้ ฉะนั้นถ้าจะใช้ก็ให้ใช้อย่างพอดี
7. ครีมทาเท้า
ชื่อก็บอกอยู่นะว่าใช้ทาเท้า ซึ่งแน่นอนว่า ส่วนผสมในครีมย่อมดีสำหรับเท้า ไม่ใช่ใบหน้า! แต่ถ้าคุณมักง่ายใช้ทาหน้าล่ะก็ ผิวหน้าของคุณก็จะอุดตันและก่อให้เกิดสิวในที่สุด
8. มายองเนส
มายองเนสเป็นส่วนผสมที่วิเศษสุดในการหมักผม แต่ไม่ใช่ในการมาส์กหน้า! ใช้มายองเนสหมักผมเพียง 20 นาทีเท่านั้น ผมก็คุณก็จะนุ่มสลวยสวยเก๋ แต่ถ้าเอาไปทาหน้าล่ะก็ ผลก็จะเหมือนคุณเอาครีมทาเท้าไปทาหน้านั่นแหละ
ที่มา http://www.thelist.com