ความเครียด คาเฟอีน ชาสมุนไพร อัลมอนด์ อาหาร

5 วิธีรับมือ ช่วยให้หยุดกิน – กินเพราะความเครียด เมื่อต้องอยู่บ้านนานๆ

Home / สุขภาพทั่วไป / 5 วิธีรับมือ ช่วยให้หยุดกิน – กินเพราะความเครียด เมื่อต้องอยู่บ้านนานๆ

เราต่างกำลังปรับตัวให้เข้ากับวิถีชีวิตแบบนิวนอร์มอล กฎระเบียบที่ทำให้เราต้องอยู่แต่ในบ้าน ทำให้เราเปลี่ยนวิธีการติดต่อสื่อสาร การออกกำลังกาย การทำงาน และการกิน ความเปลี่ยนแปลงฉับพลันทั้งหมดเหล่านี้ และความจำเป็นในการปรับตัวอย่างรวดเร็ว อาจทำให้เรารู้สึกเครียดได้

วิธีช่วยให้หยุดกิน กินเพราะความเครียด เมื่อต้องอยู่บ้าน

ซูซาน โบเวอร์แมน ผู้อำนวยการอาวุโสด้านการศึกษา และการฝึกอบรมโภชนาการระดับโลกของเฮอร์บาไลฟ์ นิวทริชั่น จึงคิดว่าเป็นวาระอันดี ที่จะได้พูดถึงความเครียดและวิธีการรับมือ คุณอาจรู้สึกประหลาดใจที่ได้รู้ว่าความวิตกกังวลและความเครียดอาจแสดงให้เห็นผ่านรูปแบบการรับประทานอาหารของคุณ ซึ่งเป็นสิ่งที่รู้จักกันโดยทั่วไปว่า เป็นการรับประทานตามอารมณ์หรือการรับประทานเพราะความเครียด

กินเพราะความเครียด คืออะไร

การรับประทานเพราะความเครียด หรือการรับประทานตามอารมณ์ มีความหมายตามชื่อของมัน ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อคุณรับประทานอาหารเพื่อให้ลืมความรู้สึกเลวร้ายที่คุณกำลังเผชิญ โดยหวังว่าอาหารจะทำให้รู้สึกดีขึ้น

บางครั้งมันคือการตัดสินใจอย่างมีสติ แต่บ่อยครั้งก็เป็นเพียงการตัดสินใจชั่ววูบ เพื่อหวังจะจัดการกับอารมณ์ด้านลบที่คุณเองก็ไม่รู้ว่ามีต้นสายปลายเหตุจากอะไร ความเครียดและความเบื่อหน่าย อาจก่อให้เกิดการกินตามอารมณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณต้องอยู่กับบ้าน และรายล้อมด้วยของกินตลอดทั้งวัน ทั้งนี้ ไม่ว่าคุณจะสั่งอาหารจานโปรดที่มีแคลอรีมากกว่ามื้ออาหารปกติของคุณ หรือทำอาหารเองที่บ้านด้วยเครื่องปรุงและส่วนประกอบที่มีอยู่จำกัด ก็เป็นไปได้ว่าคุณอาจมีพฤติกรรมการรับประทานอาหารที่แตกต่างจากที่คุณคุ้นเคย

ความเครียดอาจก่อให้เกิดความเหนื่อยล้าหรือความเศร้า ดังนั้น อาหารที่มีประโยชน์ จึงน่ารับประทานน้อยกว่าอาหารที่ถูกปาก อาหารถูกปากที่มีแคลอรีสูง จะกระตุ้นการหลั่งสารเคมีบางชนิดในสมอง ที่ทำให้รู้สึกดี แต่ก็ทำให้อยากกินอีก และการกินมากเกินไปก็จะทำให้น้ำหนักขึ้น ส่งผลให้เกิดความเครียดเพิ่มมากขึ้น และเมื่อเกิดความเครียด ก็จะทำให้กินเยอะขึ้นไปอีก เป็นวงจรเลวร้ายที่เราควรหลีกเลี่ยง

วิธีใดที่ดีที่สุด ในการป้องกันการกินเพราะความเครียด

สิ่งสำคัญที่สุดที่ทุกคนควรทำในเวลานี้คือ การดูแลตัวเองให้ดีที่สุดเท่าที่ทำได้ และฝึกนิสัยการรับประทานอาหารที่ดีเพื่อรักษาสุขภาพให้แข็งแรง ต่อไปนี้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับ วิธีหยุดการรับประทานตามอารมณ์

1. ยอมรับความรู้สึกของตัวเอง

คุณทราบดีว่า อารมณ์กระตุ้นให้เกิดการรับประทานเพราะความเครียด ดังนั้น ทำไมจึงไม่ยอมรับมัน ไม่ใช่เรื่องร้ายแรง หากเราจะรู้สึกอารมณ์ไม่ดี เหงา หรือเบื่อหน่ายในบางครั้ง ความรู้สึกอาจจะแย่อยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้เป็นอันตราย และคุณไม่จำเป็นต้อง “แก้ไข” มัน ปล่อยให้อารมณ์เกิดขึ้นและผ่านไป โดยไม่ต้องเอาใจไปจมกับมัน

2. หาทางเลือกอื่นๆ นอกจากการรับประทาน

ซูซาน โบเวอร์แมน กล่าวไว้ว่า การเดินเร็วหรือชาสมุนไพรสักแก้ว อาจคลายเครียดได้ดีกว่าการรับประทานอาหาร ถ้าคุณรู้สึกว่าต้องรับประทานอาหาร ให้ลองรับประทานอาหารกรุบกรอบเนื้อแข็ง เนื่องจากสามารถคลายความเครียดได้ ด้วยการขยับกล้ามเนื้อขากรรไกร ลองรับประทานอาหารว่างเป็นอัลมอนด์ ถั่วเหลืองสักหนึ่งกำมือ หรือเบบี้แครอท

3. รับประทานอาหารตรงเวลา และอย่าข้ามมื้ออาหาร

รับประทานอาหารให้ตรงเวลา เมื่อเกิดความเครียด คุณอาจจะเลื่อนเวลารับประทานอาหารหรือแม้กระทั่งข้ามมื้อนั้นไปเลย และจะส่งผลให้ระดับพลังงานของคุณลดน้อยลงเกินควร และคุณอาจลงท้ายด้วยการรับประทานอาหารมากเกินไปในมื้อถัดไป ถ้าความเครียดคือตัวทำลายความอยากอาหาร ลองรับประทานอาหารปริมาณน้อยลง แต่บ่อยมากขึ้นในระหว่างวัน

4. ลดคาเฟอีน

ผู้คนมักรู้สึกขาดพลังงานเมื่อเกิดความเครียด และหันไปพึ่งคาเฟอีนในเครื่องดื่มชูกำลัง ซึ่งอาจขัดจังหวะการนอนในเวลากลางคืน ถ้าคาเฟอีนทำให้คุณตื่นในเวลากลางคืน ให้ลองดื่มกาแฟและชาที่ไม่มีคาเฟอีนแทน

5. ฝึกรับประทานอาหารอย่างมีสติ

การรับประทานอาหารอย่างมีสติ หมายความว่า คุณต้องพยายามรับรู้ถึงสัญญาณของความหิวและความอิ่มภายในร่างกาย นอกจากนี้ คุณยังต้องตระหนักถึงสิ่งที่ทำให้คุณอยากรับประทานอาหาร การรับประทานอย่างมีสติ จะช่วยให้คุณสามารถเลี่ยงการรับประทานมากเกินไป และทำให้คุณเพลิดเพลินกับอาหารมากยิ่งขึ้น แม้จะรับประทานน้อยลง นอกจากนี้ คุณจะใส่ใจกับสิ่งที่คุณเลือกรับประทานมากยิ่งขึ้น

ซูซาน โบเวอร์แมน สรุปไว้ว่า ในช่วงเวลาเช่นนี้ คุณไม่ควรจำกัดสิ่งที่รับประทาน แต่ควรให้ความสำคัญกับการรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยสารอาหารมากที่สุด เพื่อรับโภชนาการที่เหมาะสมที่สุด และเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันที่ดี การระบาดครั้งนี้ ทำให้เราทุกคนเผชิญกับเกิดความเครียดมากยิ่งขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย แต่การเรียนรู้วิธีจัดการกับความเครียดนั้น จะทำให้คุณ ผู้คนที่คุณรัก และคนรอบข้างของคุณ แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

ภาพจาก unsplash.com

บทความแนะนำ