สมองอักเสบ สัตว์เลี้ยง แมว โรคแมวข่วน

ทาสแมวระวัง! โรคแมวข่วน เสี่ยงสมองอักเสบ

Home / สุขภาพทั่วไป / ทาสแมวระวัง! โรคแมวข่วน เสี่ยงสมองอักเสบ

เกร็ดความรู้เตือนภัยสำหรับทาสแมว ในบางครั้งระหว่างการเลี้ยงดู หรือเล่นกับเจ้าเหมียวคุณอาจโดยข่วน และหากคุณมีภูมิคุ้มกันต่ำ อาจก่อให้เกิด “โรคแมวข่วน” ซึ่งมีผลอันตรายร้ายแรงถึงขั้นที่ทำให้คุณเป็นโรคสมองอักเสบได้เลย

โรคแมวข่วน มีอาการเป็นอย่างไร

สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุขตรวจวินิจฉัยโรคอุบัติใหม่ โดยตรวจที่ห้องปฏิบัติการอณูวิทยาชั้นสูง ซึ่งสามารถตรวจวินิจฉัยทั้งโรคติดเชื้อ และโรคไม่ติดเชื้อได้อย่างถูกต้อง แม่นยำ ทันต่อสถานการณ์โดยเป็นห้องปฏิบัติการตรวจวิเคราะห์สารพันธุกรรมโดยเทคนิคเพิ่มปริมาณสารพันธุกรรม การหาลำดับนิวคลิโอไทด์ และเทคโนโลยีเอ็นจีเอส (Next generation sequencing technology) ที่มีความจำเพาะและความไวสูง จัดตั้งที่สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ทั้ง 14 แห่งทั่วประเทศ ใช้ระบบการบริหารจัดการและระบบการส่งต่อตัวอย่างที่สอดคล้องตามกฎอนามัยระหว่างประเทศ (IHR 2005) ในการเตรียมความพร้อมห้องปฏิบัติการเพื่อรองรับโรคข้ามพรมแดนภัยพิบัติและสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุข

โดยโรคที่ตรวจพบหนึ่งในนั้นเป็นโรคที่ไม่เคยพบในประเทศไทยมาก่อน และมีผลการศึกษาวิจัยน้อย นั่นก็คือ “โรคแมวข่วน” (cat scratch disease) มีสาเหตุจากเชื้อ Bartonella spp. โดยมีแมวเป็นสัตว์รังโรค และมี “หมัดแมว” เป็นพาหะนำเชื้อก่อโรค คนมีโอกาสติดเชื้อผ่านรอยแผลถลอกที่เกิดจากการกัด ข่วนของแมว โดยคนปกติมักจะมีอาการไม่รุนแรง แต่จะมีอาการรุนแรงในคนที่มีระดับภูมิคุ้มกันต่ำ

อาการทั่วไปที่พบหากเป็น “โรคแมวข่วน”

-เป็นผื่นแดง

-ต่อมน้ำเหลืองโตบริเวณใกล้รอยแผลกัด/ข่วน

-ไข้สูงลอย เจ็บคอ ปวดศีรษะ

-เบื่ออาหาร อาเจียน

-ในผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการปวดข้อ ปวดกล้ามเนื้อ

-อาการตับม้ามโต

-สมองอักเสบ

ในประเทศไทยมีรายงานการพบเชื้อนี้ครั้งแรกเมื่อปี 2551 โดยทีมนักวิจัยของสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข ได้ทำวิจัยเรื่อง การเฝ้าระวังเชิงรุกต่อเชื้อนี้ในสัตว์ฟันแทะในประเทศไทยโดยวิธี multispacer sequence typing (MST) และผลงานวิจัยนี้ได้รับรางวัลผลงานวิชาการยอดเยี่ยมของกระทรวงสาธารณสุข ประจำปี 2559 การตรวจวินิจฉัยนี้ใช้ระยะเวลาในการเพาะแยกเชื้อ 7-45 วัน และตรวจหาสารพันธุกรรมของเชื้อ Bartonella spp. โดยวิธีอณูวิทยา รวมทั้งการตรวจหาลำดับเบสของสารพันธุกรรมเชื้อ