สาวๆ หลายคนยังมีความเข้าใจสับสนเกี่ยวกับการใช้น้ำล้างหน้าที่ถูกต้อง สรุปแล้วควรจะใช้ “น้ำเย็น หรือ น้ำอุ่น” ถึงจะดีต่อผิวหน้าของสาวๆ ที่่สุด วันนี้เรามีเกร็ดความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้มาฝากค่ะ
น้ำเย็น VS น้ำอุ่น แบบไหนถึงจะดี ? ใช้น้ำแบบไหนล้างหน้าดีที่สุด
วิธีการล้างหน้าที่หลายๆ คนเคยได้ยินส่วนมากก็จะบอกว่า ให้ล้างด้วยน้ำอุ่นก่อนเพื่อเป็นการขยายหรือเปิดรูขุมขนให้กว้าง จะได้ล้างหน้าได้อย่างสะอาด และตามด้วยการปิดรูขุมขนด้วยการล้างหน้าด้วยน้ำเย็นในตอนสุดท้าย ขอสรุปแยกเป็นข้อๆ ของการล้างหน้าด้วยน้ำทั้ง 2 ประเภทก่อนนะคะ
ล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น
ข้อดี ช่วยให้ขจัดสิ่งสกปรกได้ง่าย เพราะรูขุมขนขยายตัว
ข้อเสีย ทำให้หน้าแห้งหยาบ และรูขุมขนกว้าง ถ้าล้างติดต่อกัน ในบางรายถ้าเป็นสิวอาจทำให้เกิดการอุดตันมากขึ้น ผิวอาจจะแห้งและลอกด้วย
ล้างหน้าด้วยน้ำเย็น
ข้อดี รู้สึกสดใส ช่วยกระชับรูขุมขน
ข้อเสีย แต่ถ้าเย็นเกินไป จะทำให้ผิวเสียสมดุล
สรุปแล้วการล้างหน้าด้วย น้ำอุ่นหรือน้ำเย็น
“ถ้าหากเกินความพอดีที่ผิวจะรับได้ ก็ก่อให้เกิดผลเสียด้วยกันทั้งนั้น” ดังนั้นแล้ว สาวๆ ควรเลือกใช้น้ำอุณหภูมิห้อง หรืออุณหภูมิปกติในการล้างหน้าจะดีกว่า สิ่งสำคัญคือ ต้องล้างหน้าให้สะอาดและถูกวิธี มีขั้นตอนมาแนะนำดังต่อไปนี้ค่ะ
ขั้นตอนการล้างหน้าที่ถูกต้อง
- บีบผลิตภัณฑ์ล้างหน้าลงบนฝ่ามือ อย่าบีบลงบนหน้าโดยตรง
- ผสมน้ำเล็กน้อยแล้วถูกับฝ่ามือก่อนที่จะลงบนหน้า
- จากนั้นนำโฟมไปล้างบนหน้าโดยวิธีการล้างตามแนวโพรงขน
- เริ่มจากหน้าผากก่อน นำมือมาลูบไล้เริ่มจากตรงกลางหน้าผากแล้วลากมือออกไปด้านข้างเบาๆ อย่าลากเข้า ให้ลากออกอย่างเดียวเท่านั้น ประมาณ 3-4 รอบ หรือจนกว่าจะรู้สึกสะอาด
- จากนั้นลงมาล้างต่อที่บริเวณแก้ม ลูบไล้นิ้วมือออกไปตามร่องแก้ม (อย่าลูบเข้าให้ลูบออกอย่างเดียว)
- สเตปท์สุดท้ายล้างบริเวณกลางหน้า ตั้งแต่จมูกจนถึงปลายคาง ใช้นิ้วลูบลงมาเบาๆ จนรู้สึกสะอาด (ย้ำอีกครั้งอย่าลูบเข้าให้ลูบออกอย่างเดียว)
- และควรเลือกผลิตภัณฑืที่อ่อนโยน เหมาะต่อสภาพผิว และไม่ควรล้างหน้าบ่อยเกินไปต่อวัน มาตรฐานทั่วไป 2 ครั้งต่อวันก็เพียงพอแล้ว เช้าเย็น
ภาพจาก: life.idntimes