วัคซีน โควิด19

การเตรียมตัวเตรียมใจ เข้าใจอาการหลังฉีดวัคซีน การป้องกันอาการข้างเคียง

Home / สุขภาพทั่วไป / การเตรียมตัวเตรียมใจ เข้าใจอาการหลังฉีดวัคซีน การป้องกันอาการข้างเคียง

ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังคงมีความรุนแรง หน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนต่างกำลังร่วมมือกันผลักดันให้ประชาชนในประเทศไทยได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 อย่างทั่วถึงและรวดเร็วที่สุด โดยฐานข้อมูลของกรมควบคุมโรค ณ วันที่ 13 มิถุนายน 2564 ชี้ว่ามีคนไทยกว่า 6 ล้านรายที่ได้รับวัคซีนเข็มแรกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

การเตรียมตัวเตรียมใจ เข้าใจอาการหลังฉีดวัคซีน

หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่จะเอาชนะการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้สำเร็จ คือ ประชาชนในประเทศมีความเข้าใจ ตระหนักถึงความจำเป็นและคุณประโยชน์ของวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นอย่างเร่งด่วนในภาวะฉุกเฉิน และเข้ารับการฉีดวัคซีนโดยเร็วที่สุด

ศาสตราจารย์ แพทย์หญิงศศิโสภิณ เกียรติบูรณกุล แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคติดเชื้อ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี เป็นอีกเสียงหนึ่งที่ยืนยันว่าวัคซีนคือทางออก

“ในวันนี้ประเทศไทยมีวัคซีนอยู่ 2 ประเภทใหญ่ๆ ชนิดแรกคือชนิดเชื้อตาย ซึ่งมีลักษณะเดียว กับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ที่เรารู้จักกัน และชนิดที่สองคือ ชนิดไวรัสเวกเตอร์หรือวัคซีนชนิดไวรัสเป็นพาหะ ทั้งสองชนิดทำหน้าที่กระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันโรคในตัวผู้รับวัคซีน

ทั้งนี้ในด้านประสิทธิภาพของวัคซีนแต่ละตัว จะนำมาเปรียบเทียบกันไม่ได้ เพราะวัคซีนแต่ละชนิดมาจากบริบทการศึกษาวิจัยที่แตกต่าง ศึกษากันคนละที่ คนละประเทศ คนละประชากร คนละช่วงการระบาด ฉะนั้นจึงตอบไม่ได้ว่าวัคซีนตัวไหนดีกว่ากัน หากอ้างอิงจากสารของราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย วัคซีนที่ดีที่สุดสำหรับทุกคนคือ วัคซีนที่เราได้รับเร็วที่สุด และไม่แนะนำให้รอ หรือเลือกวัคซีนชนิดใดชนิดหนึ่ง”

การเตรียมตัวเตรียมใจ เข้าใจอาการหลังฉีดวัคซีน

การเตรียมความพร้อมการรับวัคซีน

ทั้งนี้ ศาสตราจารย์ แพทย์หญิงศศิโสภิณ ให้ข้อแนะนำว่า ประชาชนควรเตรียมความพร้อม ทั้งในด้านร่างกายและจิตใจก่อนเข้ารับการฉีดวัคซีน

“ในแง่การเตรียมตัว ต้องทราบว่าเรามีโรคประจำตัวอะไร มีการรักษาต่อเนื่องหรือไม่ มีอาการคงที่ใช่ไหม ถ้ามีการรักษาที่คงที่ มีอาการที่ควบคุมได้ ก็สามารถรับวัคซีนได้ แต่ถ้ามีการปรับยาที่แพทย์ให้ตลอดเวลา ต้องปรึกษาแพทย์เจ้าของไข้ก่อนว่าสามารถรับวัคซีนได้หรือไม่”

สำหรับคนวัยหนุ่มสาวที่แข็งแรงและไม่มีโรคประจำตัว ควรเลื่อนฉีดไปก่อน หากมีภาวะเจ็บป่วยเฉียบพลันใดๆ เช่น อยู่ๆ เป็นหวัดหรือเป็นไข้ ส่วนผู้ที่มีประวัติแพ้ยาหรืออาหาร ควรแจ้งประวัติการแพ้ต่างๆ ก่อนรับการฉีด เพื่อจะได้เฝ้าสังเกตอาการเป็นพิเศษในช่วง 30 นาทีแรก

เข้าใจอาการหลังฉีดวัคซีน

“อีกเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กันคือการเตรียมใจ อยากให้ทุกคนเข้าใจก่อนว่าในการฉีดวัคซีนอาจมาพร้อมผลข้างเคียง ซึ่งส่วนแรกคืออาการที่มาจากความวิตกกังวลหรือความกลัว ที่อาจทำให้มีอาการ ชา อ่อนแรง ซึ่งไปคล้ายกับอาการหลอดเลือดสมอง อีกส่วนหนึ่งคืออาการข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้หลังการฉีดวัคซีนทุกชนิด

โดยแบ่งเป็นอาการที่เกิดเฉพาะบริเวณที่มีการฉีด เช่น ที่แขน อาจปวด บวม แดง หรือร้อนผ่าว ซึ่งมีโอกาสเจอมากถึงร้อยละ 20-30 และอาการตามระบบ เช่น มีไข้ต่ำไม่เกิน 38 องศาเซลเซียส เพลีย หรือปวดเมื่อยตามร่างกาย อาการเหล่านี้สามารถหายเองได้ภายใน 1-2 วัน และสามารถรักษาตามอาการ เช่น ใช้ยาพาราเซตามอลเพื่อลดอาการปวดหรือลดไข้ได้ ดังนั้นไม่ต้องวิตกกังวล”

ภูมิคุ้มกัน

สิ่งที่ทุกคนปรารถนาไม่ต่างกันในวันนี้ คือ อิสรภาพที่จะได้กลับมาทำกิจกรรมทางสังคมตามปกติ ทั้งการกลับไปทำงาน การจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ การเดินทางท่องเที่ยว และการได้เห็นเศรษฐกิจทั้งในบ้านเราและทั่วโลกฟื้นตัวดีขึ้น

“เราจะก้าวไปสู่เป้าหมายนี้ได้ ก็ต่อเมื่อทุกคนมีภูมิคุ้มกัน ซึ่งหมายถึงทุกคนอยู่ในสถานะที่ปลอดภัย วัคซีนมีประโยชน์ต่อตัวผู้ที่ได้รับเอง ในแง่ของการลดความรุนแรงของโรค และป้องกันการเสียชีวิต และมีประโยชน์ต่อคนรอบข้าง โดยสามารถสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ได้ถ้าประชาชนประมาณร้อยละ 70 ของประเทศได้รับวัคซีน แต่จนกว่าจะถึงวันที่เราจะได้ถอดหน้ากากพร้อมกันทั่วประเทศ แม้ว่าจะได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว ก็ยังสามารถติดเชื้อได้ ดังนั้นจึงยังต้องสวมหน้ากาก ล้างมือ และเว้นระยะห่างอยู่ต่อไปอีกระยะหนึ่งก่อน” ศาสตราจารย์ แพทย์หญิงศศิโสภิณ กล่าวปิดท้าย

บทความแนะนำ