เครื่องสำอางที่หมดอายุอาจเป็นสาเหตุของปัญหาผิวหน้า เช่น สิว ฝ้า กระ หรือ ผื่นแพ้ต่างๆ อาจก่อให้เกิดโรคผิวหนังเรื้อรัง เยื่อบุตาอักเสบ ปากเปื่อยได้อีกด้วยดังนั้น สาวๆ จึงควรสังเกตวันหมดอายุก่อนใช้ และถ้าชิ้นไหนหมดอายุแล้วก็ให้โละทิ้งอย่าเสียดายไปเลยค่ะ เพราะนอกจากสาวๆ จะเสี่ยงต่ออาการแพ้สารเคมีต่างๆ ที่อยู่ในเครื่องสำอางสังเคราะห์ที่นำมาใช้กันแล้วนั้น การเสี่ยงต่อเครื่องสำอางที่หมดอายุก็มีไม่แพ้กันค่ะ เครื่องสำอางหมดอายุวันไหน ดูอย่างไร
เครื่องสำอางหมดอายุวันไหน ดูอย่างไร
ลิควิดอายไลเนอร์ และมาสคาร่า
มีอายุการใช้งานเพียง 3-6 เดือน หลังการเปิดใช้ครั้งแรก เนื่องจากด้ามแปรง ที่ปัดขนตาเป็นที่สะสมของแบคทีเรีย จนอาจจะทำให้เกิดการอักเสบของผิวบอบบางรอบดวงตาได้ค่ะ
ครีมรองพื้น
มีอายุการใช้งาน 1 ปีหลังการเปิดใช้ครั้งแรกสำหรับแบบผสมน้ำ แต่ถ้ามีน้ำมันผสมสามารถใช้ได้ถึง 1 ปีครึ่ง ควรเก็บไว้ในตู้เย็น ปิดฝาให้สนิทจะทำให้ใช้งานได้ยาวนานขึ้น และอย่านำรองพื้นมาทาที่ผิวหน้าโดยตรง ควรใช้แปรงหรือฟองน้ำ ถ้ามีกลิ่นเหม็นหืน หรือเนื้อครีมเปลี่ยนสีต้องทิ้งทันที
น้ำยาทาเล็บ
มีอายุการใช้งาน 1 ปี หลังการเปิดใช้ครั้งแรก ควรหมั่นเขย่าขวดบ่อยๆ ช่วยไม่ให้น้ำยาทาเล็บเกาะตัวกัน แต่ถ้าน้ำยาจับตัวกันจนแข็งควรใช้ใช้น้ำยาล้างเล็บผสมลงไปผสมแล้วเขย่า จะสามารถทำให้น้ำยาเหลวได้เหมือนเดิม
น้ำหอม
ควรเก็บให้ห่างแสงแดดและความร้อน จะทำให้สามารถเก็บได้นานถึง 3 ปี แต่ถ้าเปิดใช้แล้วจะอยู่ได้ราว 1 ปีครึ่ง ถ้ามีกลิ่นแอลกอฮอล์ฉุนแรง หรือน้ำหอมเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเหลืองไม่ควรใช้ต่อ
เมคอัพเนื้อครีม
เช่น ลิปสติก ดินสอเขียนขอบปากขอบตา บรัชออน อายแชโดว์แบบครีม มีอายุใช้งาน 2 ปี หลังจากเปิดใช้ครั้งแรก และอย่าใช้มือสัมผัสโดยตรง ควรใช้แปรงแตะเนื้อครีมแทน ส่วนลิปกลอสนั้นมีอายุใช้งานเพียง 1 ปีเท่านั้น
ครีมบำรุงผิว
ให้ลองสังเกตวันหมดอายุข้างกล่อง ระบุคำว่า MFD หรือ MFG คือวันผลิต มีอายุการใช้งาน 1 ปี หลังการเปิดใช้ครั้งแรก แต่ส่วนใหญ่ให้ดูสัญลักษณ์คล้ายรูปกระป๋องเปิดฝาที่ข้างบรรจุภัณฑ์ เช่น มีตัวเลข 12M อยู่ในกระป๋องแปลว่าหลังจากเปิดใช้มีอายุ 12 เดือน เป็นต้น
แต่ถึงอย่างไรก็ตาม สาวๆ ก็ควรเพิ่มความระมัดระวัง และช่างสังเกตเครื่องสำอางที่เราใช้ให้มากขึ้นนะคะ เพราะเครื่องสำอางในแต่ละแบรนด์ก็มีอายุการใช้งานแตกต่างกันไป รวมทั้งการเก็บรักษาก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งด้วยค่ะ
MFG หมายถึง วันเดือนปีที่ผลิต (Manufactured) 23 เมษายน 2010 หมดอายุ 23 เมษายน 2021
ผลสำรวจวิเคราะห์มาว่า มีแค่ 25% ที่สนใจวันหมดอายุ
เพราะผลจากการสำรวจวิเคราะห์ออกมาแล้วว่า มี สาวๆ จำนวนแค่ 25% เท่านั้นที่ให้ความสำคัญกับการตรวจสอบ และสังเกตวันหมดอายุการใช้งานของเครื่องสำอางที่กำลังตัดสินใจซื้อ หรือที่กำลังใช้อยู่เป็นประจำ
เครื่องสำอางที่ดี และมีคุณภาพ
โดยเครื่องสำอางที่ดี และมีคุณภาพนั้นจะต้องระบุ วันเดือนปีที่ผลิต (Manufactured) พร้อมวันหมดอายุ “Best Before” หรือคำว่า “Exp.” อยู่บนฉลากผลิตภัณฑ์
และที่น่าตกใจมากที่สุดก็คือ ผู้หญิงอีก 75% ที่เหลือละเลย และไม่ใส่ใจว่าเครื่องสำอางที่หยิบมาใช้เป็นประจำนั้นหมดอายุการใช้งานแล้วหรือยัง แม้จะมีกลิ่นและสีผิดเพี้ยนไปจากเดิมก็ตาม จากการที่จะช่วยบำรุงผิวของเราให้สวย ที่อุตส่าห์ดูแลกันมาตลอดเวลา ก็กลายเป็นความอันตรายที่แอบแฝงไว้ที่โต๊ะเครื่องแป้งของสาวๆ ทุกคนนั่นเองค่ะ
การที่สาวๆ ละเลยวันหมดอายุของเครื่องสำอาง แล้วยังนำมาใช้อย่างปกตินั้น อาจจะเป็นสาเหตุให้เกิดอาการอักเสบตามมา จนทำให้ผิวหนังบริเวณนั้นเกิดผดผื่น บวมแดง เพราะสารเคมีหมดอายุและเชื้อแบคทีเรียที่ซ่อนตัวอยู่ด้วย ซึ่งแพทย์ผิวหนังผู้เชี่ยวชาญได้ระบุว่า เครื่องสำอางจำพวกอายส์เมคอัพจะหมดอายุเร็วที่สุด เมื่อใช้นานประมาณ 3 เดือนแล้วไม่ควรใช้ต่อไป เนื่องจากมีแบคทีเรียปนเปื้อน และสารกันบูดอ่อนฤทธิ์ลง เมื่อเผลอเข้านัยน์ตา จะทำให้เยื่อบุตาอักเสบ
อีกทั้งแป้งรองพื้นก็เช่นกัน หากนานเกินหนึ่งปี อาจจะทำให้เกิดอักเสบ ผิวหนังระคายเคือง บวมแดง ส่วน เครื่องสำอางที่ใช้กับบริเวณที่บอบบางมากๆ เช่น ดวงตาอย่างอายไลเนอร์หรือ มาสคาร่าไม่ควรใช้ร่วมกับผู้อื่น เพราะอาจเกิดการติดเชื้อโดยบังเอิญได้ รวมทั้งลิปสติกควรใช้พู่กันทาปากแต้มเนื้อลิปสติก ดีกว่าการใช้ทาลงบนริมฝีปากโดยตรง เพราะจะทำให้เนื้อลิปสติกปลอดจากการปนเปื้อนของแบคทีเรียและอยู่ได้นานยิ่งขึ้น
แต่ก็เป็นเรื่องปวดหัวให้สาวๆ กันอีกเช่นเคย เพราะเครื่องสำอางส่วนใหญ่มักจะบอกเฉพาะวันที่ผลิตเท่านั้น ต้องอาศัยการดมกลิ่นเข้าช่วยนั่นแหละนะในบางที อย่าเสี่ยงเลยจะดีกว่า