อาหาร 6 ชนิดที่ควรเลี่ยง สำหรับคนที่มีอาการปวดหัวไมเกรน

อาการปวดหัวไมเกรน หรืออาการปวดหัวข้างเดียว เป็นอาการที่เกิดได้กับคนทุกเพศทุกวัย ซึ่งหลายคนอาจจะเคยรู้สึกปวดหัวแบบนี้อยู่เป็นประจำ เวลาที่ทำงานเครียด อยู่กับหน้าจอคอม หรือหน้าจอโทรศัพท์เป็นเวลานาน และนอกจากนี้อาจจะเกิดจากสาเหตุอื่นได้อีกหลายประการ

อาหาร 6 ชนิดที่ควรเลี่ยง เมื่อเป็นไมเกรน

สำหรับคนที่ปวดหัวไมเกรนบ่อย เคยสังเกตไหมคะว่า เรามักจะมีอาการปวดหัวหลังจากที่กินอาหารบางชนิดเข้าไป และการที่เรารู้สึกปวดหัว ก็เพราะอาหารชนิดนั้นมีฤทธิ์กระตุ้นให้เกิดอาการปวดหัว ที่บริเวณเส้นเลือดของเยื่อหุ้มสมองส่วนนอก หรือที่เส้นประสาทคู่ที่ 5 ส่วนปลาย หรือในบางครั้งอาจจะไปกระตุ้นให้เกิดอาการปวดหัวในสมองได้โดยตรงก็มี ซึ่งเรามาดูกันดีกว่าอาหารชนิดไหนบ้างที่มีฤทธิ์กระตุ้นให้เราปวดหัว และควรหลีกเลี่ยง

1. สารไทรามีน

ไทรามีนเป็นสารโดยธรรมชาติที่มักจะพบในของหมักดอง อาหารที่มีส่วนประกอบของ ยีสต์ เบียร์ หรือไม่ก็ในเนยแข็งบ่ม ปลาลมควัน และเนื้อสัตว์ที่ผ่านกรรมวิธียืดอายุ ซึ่งถ้าใครเป็นคนที่ไวต่อสารไทรามีน ก็จะทำให้เกิดอาการปวดหัวรุนแรงได้

2. สารแอสปาแตม

แอสปาแตมเป็นสารให้ความหวาน ที่มีความหวานมากกว่าน้ำตาลปกติ 180-200 เท่า ซึ่งสารตัวนี้ยังไม่มีการรับรองอย่างเป็นทางการว่ามีผลทำให้ปวดหัวไมเกรน แต่ก็พบว่ามีผู้ป่วยบางรายที่ปวดหัวหลังจากที่กินอาหารที่มีส่วนผสมของสารแอสปาแตมเข้าไป

3. ผงชูรส

ผงชูรส สารปรุงแต่งที่อยู่ในอาหารหลายๆ อย่างที่เรากินกัน ซึ่งเจ้าผงชูรสนั้นไม่ได้มีผลโดยตรงที่ทำให้เราปวดหัว แต่จะมีผลกระตุ้นให้สมองของเราหลั่งสารสื่อประสาทบางชนิดออกมา และสารตัวนี้ก็จะไปกระตุ้นห้เซลล์ของผนังหลอดเลือดหลั่งสารไนตริกออกไซด์ ที่มีผลทำให้หลอดเลือดขยายตัว และทำให้เกิดอาการปวดหัว

4. ไนเตรต และไนไตรท์

ไนเตรต และไนไตรท์เป็นสารกันบูดที่ใช้ในการถนอมอาหารด้วยวิธีหมักดอง หรือรมควัน เช่น ไส้กรอก เนื้อรมควัน หรือปลารมควัน ซึ่งถ้าเราได้รับสารนี้เข้าไปจะกระตุ้นให้หลอดเลือดขยายตัว ส่งผลให้เกิดอาการปวดหัวในทันที หรืออาจจะออกฤทธิ์หลังจากที่เรากินไปแล้วเป็นชั่วโมงก็ได้

5. เครื่องดื่มแอลกอฮอล์

เครื่องดื่มแอลกอฮอร์ก็มีส่วนในการกระตุ้นให้เกิดอาการปวดหัวไมเกรนได้เหมือนกัน โดยเฉพาะไวน์แดง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ออกฤทธิ์ทำให้มีอาการปวดหัวภายใน 3 ชั่วโมงหลังจากที่ดื่ม เนื่องจากในไวน์มีส่วนประกอบของไทรามีน ซัลไฟท์ ฮีสตามีน และฟลาโวนอย ที่กระตุ้นให้เกิดอาการปวดหัวได้ และอาการปวดหัวนั้นก็ยังสมารถเกิดหนเช้าวันรุ่งขึ้นหลังจากที่ที่เรากินแอลกอฮอล์ และอาการนี้สามารถเกิดได้ยาวนานถึง 24 ชั่วโมงจนกว่าแอลกอฮอล์ในเลือดจะหมดไป

6. คาเฟอีน

คาเฟอีนสารที่เรารู้จักกันดี และพบบ่อยในกาแฟ ชา โซดา ช็อกโกแลต และในบางครั้งเราอาจจะพบในยาแก้ปวดหัวด้วย คาเฟอีนนั้นจะมีผลต่อระบบประสาทส่วนกลาง ซึ่งอาการปวดหัวก็ขึ้นอยู่กับปริมาณคาเฟอีนที่กินไป ซึ่งปริมาณคาเฟอีนที่ห้ามกินเกินคือ 300 มิลลิกรัม เพราะว่าจะทำให้เกิดอาการวิตกกังวล กระสับกระส่าย นอนไม่หลับ หงุดหงิด แต่คาเฟอีนนั้นเป็นเครื่องดื่มที่ปะหลาด เพราะมีทั้งสรรพคุณที่ช่วยให้หายปวดหัว แต่ก็ทำให้ปวดหัวได้ โดยขึ้นอยู่กับปริมาณคาเฟอีนที่ได้รับ และความถี่ในการกิน

ที่มา : โรงพยาบาลกรุงเทพ