นักวิทยาศาสตร์ด้านพฤติกรรมใช้เวลาศึกษาสิ่งที่ทำให้เรามีความสุข จนสามารถรู้ว่าความสุขสามารถทำนายสุขภาพและอายุยืนได้ แต่ความสุขไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นกับทุกคน การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมและความสัมพันธ์ของเรากับคนรอบข้างที่ดี สามารถช่วยให้เราอยู่ในเส้นทางที่มีความสุขได้มากขึ้น มาดูว่าความสุขเริ่มต้นง่ายๆ แค่ที่ใจเรา ทำได้อย่างไรบ้าง?….
How to be happy? จะทำอย่างไรให้มีความสุข?
1. พิชิตการคิดเชิงลบ – อย่าพยายามหยุดความคิดเชิงลบ
มนุษย์ทุกคนมีแนวโน้มที่จะเป็นเหมือนอียอ (ตัวละครที่เป็นลา จากเรื่อง Winnie and the pool) มากกว่าทิกเกอร์เล็กน้อย เพื่อไตร่ตรองประสบการณ์ที่ไม่ดี ซึ่งเป็นการปรับตัวให้เข้ากับวิวัฒนาการ การเรียนรู้มากเกินไปจากสถานการณ์อันตรายหรืออันตรายที่เราเผชิญตลอดชีวิต (การข่มขู่, การบาดเจ็บ, การถูกทรยศ) ช่วยให้เราหลีกเลี่ยงเหตุการณ์เหล่านี้ในอนาคตและตอบสนองอย่างรวดเร็วในช่วงที่เกิดวิกฤต
แต่นั่นหมายความว่าคุณต้องทำงานหนักขึ้นเล็กน้อยเพื่อฝึกฝนสมองเพื่อเอาชนะความคิดด้านลบและนี่คือวิธี…
อย่าพยายามหยุดความคิดเชิงลบ ห้ามบอกตัวเองว่า “ฉันต้องหยุดคิดเรื่องนี้” เพราะจะทำให้คุณคิดมากกว่าเดิม คุณต้องยอมรับมัน “ฉันกังวลเรื่องเงิน” “ฉันกำลังหมกมุ่นกับปัญหาในที่ทำงาน” ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า ควรปฏิบัติต่อตัวเองเหมือนเป็นเพื่อน เมื่อคุณรู้สึกในแง่ลบเกี่ยวกับตัวเองให้ถามตัวเองว่าคุณจะให้คำแนะนำกับเพื่อนคนไหนที่ทำให้ตัวเองแย่ลง ตอนนี้ลองใช้คำแนะนำนั้นกับคุณ
ลองท้าทายความคิดเชิงลบของคุณ การศึกษาแสดงให้เห็นว่าวิธีนี้สามารถลดอาการซึมเศร้าได้ เป้าหมายคือเพื่อให้คุณได้รับจากทัศนคติที่ไม่ดี (“ฉันล้มเหลว”) ไปสู่แง่บวกมากขึ้น (“ฉันประสบความสำเร็จในอาชีพการงานของฉันมาก) นี่เป็นเพียงความล้มเหลวเพียงอย่างเดียวที่ฉันสามารถเรียนรู้จากมันและทำมันให้ดีขึ้นได้”)
2. ควบคุมการหายใจ – ส่งเสริมสมาธิและเพิ่มพลังงานในแง่บวก
วิทยาศาสตร์เพิ่งเริ่มให้หลักฐานว่าประโยชน์ของการฝึกฝนการหายใจนี้เป็นจริง ตัวอย่างเช่น การศึกษา พบว่าการฝึกการหายใจสามารถช่วยลดอาการที่เกี่ยวข้องกับความวิตกกังวล, นอนไม่หลับ, โรคเครียด, ซึมเศร้าและความผิดปกติของสมาธิ การควบคุมลมหายใจสามารถส่งเสริมสมาธิและเพิ่มพลังงานในแง่บวกได้ ทั้งนี้พระพุทธเจ้าก็ยังสนับสนุนการทำสมาธิลมหายใจ เพราะเป็นวิธีหนึ่งในการเข้าถึงการตรัสรู้
3. เขียนไดอารี่ 15 นาทีต่อวัน
การเขียนเกี่ยวกับตนเองและประสบการณ์ส่วนตัวและเรื่องราวของคุณ สามารถนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมและปรับปรุงชีวิตให้มีความสุขได้ งานวิจัยบางชิ้นชี้ให้เห็นว่าการเขียนไดอารี่เป็นเวลา 15 นาทีต่อวันอาจนำไปสู่การเพิ่มความสุข และความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยส่วนหนึ่งเพราะจะช่วยให้เราสามารถแสดงอารมณ์ความรู้สึกของเรา และตระหนักถึงสถานการณ์ที่ผ่านมาของเราได้อย่างดี การศึกษาจำนวนมากแสดงให้เห็นว่าการเขียนเรื่องราวของคุณสามารถทำให้คุณหลุดพ้นจากความคิดด้านลบ และไปสู่มุมมองชีวิตที่เป็นบวกมากขึ้นนั่นเอง
ที่มา : nytimes.com