ดัดฟันแฟชั่น บิ๊กอาย พฤติกรรมวัยรุ่น วัยรุ่นไทย เพศสัมพันธ์

7 พฤติกรรมวัยรุ่น ที่เสี่ยงต่อการตาย!! โดยไม่รู้ตัว

Home / สุขภาพทั่วไป / 7 พฤติกรรมวัยรุ่น ที่เสี่ยงต่อการตาย!! โดยไม่รู้ตัว

จริงอยู่ว่า วัยรุ่น เป็นวัยสดใส วัยที่มีพลัง แต่ถึงอย่างไรก็ตาม สุขภาพคนเราถ้าโดนกระทำด้วยพฤติกรรมแย่ๆ ซ้ำๆ ต่อให้ร่างกายยังเยาว์ขนาดไหน ก็สามารถบั่นทอนชีวิตให้สั้นลงเรื่อยๆ ได้เหมือนกัน ถ้ายังอยากอยู่บนโลกใบนี้ต่อไปด้วยสุขภาพที่สดใส แข็งแรง หลีกเหลี่ยงพฤติกรรมต่อไปนี้ซะ เพราะเป็น 7 พฤติกรรมวัยรุ่น ที่เสี่ยงต่อการตาย!! โดยไม่รู้ตัว ที่น้องๆ อาจคิดไม่ถึง..

 7 พฤติกรรมวัยรุ่น ที่เสี่ยงต่อการตาย

1. จัดฟัน

การดัดฟันต้องดัดที่ถูกสุขลักษณะกับคุณหมอเท่านั้น!! แต่เนื่องจากเป็นเทรนด์ฮิตในหมู่วัยรุ่น จึงทำให้พวกจ้องเอาแต่ผลกำไร รายได้ โดยไม่คำนึงถึงความถูกต้อง และความปลอดภัย ออกมาเปิดร้านดัดฟันแฟชั่น หรือร้านดัดฟันเถื่อน กันเกลื่อนท้องตลาด แล้วอ้างว่าเครื่องมือมาจากคุณหมอ แต่ราคาถูกกว่า (มีราคาตั้งแต่ 1,000 บาทขึ้นไป) น้องๆ รู้ไว้เลยค่ะว่า  ไม่มีร้านไหนที่ปลอดภัยเท่ากับไปดัดกับคุณหมอที่โรงพยาบาล หรือสถาบันทันตกรรมที่มีใบรับรอง ซึ่งก็มีข่าวออกมาให้ได้เห็นกันมากมายว่าการดัดฟันแฟชั่นนั้นส่งผลให้ติดเชื้อในช่องปาก เชื้อโรคอาจลุกลามจนทำให้เสียชีวิตในที่สุด สำหรับน้องๆ ที่ต้องการดัดฟันก็ควรดูความเหมาะสมด้วย เข้าใจว่าใครๆ ก็อยากมีฟันที่สวย แต่หากเราต้องการดัดจริงๆ และยังมีค่าใช้จ่ายไม่พอ ก็ค่อยๆ เก็บอดออมไปเรื่อยๆ ดีกว่าไปเสี่ยงดัดฟันเถื่อนแค่ไม่กี่บาท ไม่ได้ช่วยให้ฟันสวยขึ้น แถมยังต้องมาเสี่ยงต่อการเสียชีวิต มันไม่คุ้มเลยนะคะ

2. นอนดึก

สำหรับวัยรุ่นช่วงอายุ 12 -18 ปี ร่างกายนั้นต้องการพักผ่อนวันละ 9 ชั่วโมง ในยุคนี้เริ่มมีโซเชียลเน็ตเวิร์คเข้ามา บางคนไม่รู้จักเวลาเล่น เวลาทำการบ้าน เช่น อาจจะเล่นเกม หรือแชท จนดึกดื่น แล้วการบ้านยังไม่เสร็จ ต้องมานั่งปั่นเพื่อให้ส่งทันเดทไลน์ ถ้าทำซ้ำๆ เดิมๆ ทุกวัน จะส่งผลให้ระบบร่างกายรวน กินนอนไม่เป็นเวลา แล้วสังเกตได้เลยว่า ยิ่งนอนดึก ยิ่งฉี่บ่อย เพราะร่างกายจะเอาพลังงานออกมาใช้ จึงทำให้ขับถ่ายออกมาทางปัสสาวะ ตื่นเช้าไปนั่งเรียนก็ง่วง ไม่มีสมาธิ ความจำไม่ดี การคำนวณแย่ หนักๆ เข้าจะมีอาการภาพหลอน อารมณ์ไม่คงที่ เซลล์สมองขาดพลังงาน การขับถ่ายไม่ปกติ ไม่มีการขับถ่ายของเสียออก เป็นการสะสมสารพิษให้คั่งค้างอยู่ในร่างกาย และอาจตายได้ในที่สุด

3. กินอาหารที่มีผงชูรสเยอะ ขนมขบเคี้ยว ของทานเล่น

ส่วนมากจะมีส่วนผสมของผงชูรสอยู่ด้วย กินมากไปไม่เป็นผลดีต่อร่างกายแน่นอน เคยมีกรณีที่เด็กตายเพราะกินขนมครกที่โรยผงชูรสด้วยความเข้าใจผิดคิดว่าเป็นน้ำตาลด้วยนะ เพราะผงชูรสนั้นผลิตมาจากแป้งมันสำปะหลังที่ต้องหมัก และใช้สารเคมีหลายตัว เช่น กรดกำมะถันหรือกรดซัลฟูริค กรดเกลือ หรือกรดไฮโดรคลอริก ยูเรีย (ในปัสสาวะ) ซึ่งกรดต่างๆ เหล่านั้นไม่ได้จำเป็นต่อร่างกายเลย

แต่จะมีผลเสียทั้งนั้นถ้าทานเกินขนาด อาทิ ภูมิต้านทานร่างกายมนุษย์ลดลง ทำลายสมองส่วนหน้า โตช้า ปัญญาอ่อน ระบบสืบพันธุ์ผิดปกติ อวัยวะสืบพันธุ์เล็กลง หากใครที่แพ้ จะมีอาการชา ร้อนวูบวาบที่ปาก ลิ้น ใบหน้า โหนกแก้ม ต้นคอ หน้าอก บางคนมีผื่นแดงเกิดขึ้นตามตัว แน่นหน้าอก หัวใจเต้นช้าลง หายใจไม่สะดวก และอาจเสียชีวิตได้ทันที

4. กินอาหารเสริม ยาลดความอ้วน ใช้เครื่องสำอางตามโฆษณาชวนเชื่อ

ค่านิยมในความสวยปัจจุบันคือ ขาว และผอม ปัจจุบันจึงเห็นมีผลิตภัณฑ์ อาหารเสริมออกมาขายบนโลกออนไลน์มากมาย โฆษณาสรรพคุณเวอร์วังว่ากินแล้วขาวใสภายใน 3 วัน 7 วัน  กินแล้ว 1 เดือนลดได้ 10 กิโลฯ ฟังดูก็ไม่น่าเชื่อแล้วค่ะ บางคนอาจจะหลงกับภาพนางแบบโฆษณาที่บอกว่าใช้จริงได้ผล อย่าลืมว่ายุคที่เทคโนโลยีครองโลกแบบนี้ แอพพลิเคชั่น โปรแกรมแต่งภาพ สามารถเนรมิตทุกอย่างได้ภายในพริบตา ไม่มีอะไรปลอดภัยไปกว่าการหมั่นออกกำลังกาย และรู้จักเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์นะคะ อีกอย่างถ้าร่างกายยังอยู่ในช่วงวัยรุ่น การออกกำลังกายถ้าทำสม่ำเสมอได้ผลเร็วไม่ช้าเกินรอ ช้าแต่ปลอดภัยชัวร์

5. มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน

ข้อมูลสถิติในประเทศไทยพบว่า อายุเฉลี่ยของการมี เพศสัมพันธ์ ครั้งแรกของวัยรุ่นไทยจากเดิมอายุ 18-19 ปี ลดลงมาที่ประมาณ 12-13 ปี ดังนั้นถ้าน้องๆ คิดจะรักสนุก ก็ต้องรู้จักป้องกัน ใส่ถุงยางอนามัย เพราะหากน้องๆ ไม่ปฏิบัติให้ถูกวิธี อาจก่อให้เกิดปัญหาตามมามากมาย ทั้งท้องในตอนที่ยังไม่พร้อม ทั้งโรคติอต่อทางเพศสัมพันธ์อีกเพียบอาทิ ทั้งเชื้อไวรัส แบคทีเรีย เอดส์  กามโรค ฯลฯ  อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคเอดส์ในประเทศไทยว่า ปัจจุบันมีจำนวนผู้ป่วยด้วยโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยพบว่า ผู้ป่วยที่เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธุ์ต่อจำนวนประชากร 1 แสนคน เพิ่มขึ้นมากจาก 29 % (พ.ศ. 2550) เป็น 44 % (พ.ศ. 2554) และในจำนวนนี้ เป็นวัยรุ่นถึง 42% สะท้อนให้เห็นว่า วัยรุ่นไทยมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัย   นอกจากน้องๆ ต้องป้องกันด้วยการใส่ถุงยางแล้ว ควรไปหาหมอตรวจสุขภาพด้วยนะคะ

6.ดื่มของมึนเมา

แอลกอฮอล์ ถ้ากินมากเกินจนขาดสติ ก็ทำให้คนเราทำอะไรไปโดนไม่ทันยั้งคิด อาทิ ทะเลาะวิวาท มีเพศสัมพันธ์แบบไม่ได้ตั้งใจ ข้อมูลขององค์การอนามัยโลก(WHO) พบว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่มีปริมาณการดื่มแอลกอฮอล์มากจัดเป็นอันดับ 5 ของโลก หากน้องๆ ดื่มมากจนเกินพอดี เมาขาดสติ มันสามารถส่งผลกระทบต่อชีวิตทั้งในด้านการเรียน สุขภาพร่างกาย อ้วน ความดันโลหิตสูง สมองผิดปกติ และยังเปอร์เซนต์เสี่ยงสูงในการเสียชีวิตด้วยเหตุการณืดังต่อไปนี้คือ อุบัติเหตุรถยนต์ ฆ่าตัวตาย ฆ่าผู้อื่น อย่างไรก็ตาม พี่เข้าใจว่าวัยรุ่นก็เป็นวัยที่อยากรู้อยากลอง ซึ่งจะลองก็ลองได้น่ะ แต่ก็ต้องมีขอบเขต ไม่เดือดร้อนตัวเอง และผู้อื่นค่ะ

7.ใส่บิ๊กอาย

อีก 1 เทรนด์ที่ฮิตในหมู่วัยรุ่นก็คือ การใส่คอนแทคเลนส์ หรือ บิ๊กอาย ซึ่งก็มีตั้งแต่ราคาหลักร้อยไปจนถึงหลักพัน การใส่นั้นเราต้องดูด้วยว่า มีอายุการใช้งานเมื่อไหร่ หมดอายุวันไหน ใส่แล้วก็ต้องดูแลรักษาความสะอาด อย่าใสเกิน 8 ชั่วโมงต่อวัน ก่อนนอนก็ควรถอดซะ ถ้าเป็นแบบใช้แล้วทิ้งก็จบ แต่สำหรับรายเดือน รายปี ก็ต้องล้างให้สะอาด แล้วแช่น้ำยา ปิดผาให้สนิท หากมีสิ่งแปลกปลอมเข้าไป หรือตกค้างในคอนแทคเลนส์ เวลาใส่มันก็จะเข้าไปสัมผัสบนผิวดวงตาของผู้ใส่โดยตรง และหากยิ่งใส่เป็นเวลานานๆ ก็ทำให้ตาแห้ง ส่งผลให้ทำลายกระจก อาจเป็นแผลก่อให้ติดเชื้อโรคลุกลาม หากรักษาไม่ทันลูกตาก็จะเน่า แล้วบอดในที่สุด หรืออาจจะแรงถึงขั้นเชื้อโรคเข้าไปในกระแสเลือดทำให้เสียชีวิตได้

Photo:kaleidoscope.cultural-china.com , www.widemagazine.com/6192