งานวิจัยเพื่อไขข้อข้องใจระหว่าง “คลื่นโทรศัพท์มือถือ” กับการเกิด “โรคมะเร็ง” ยังคงเดินหน้าต่อไป…. เมื่อสัปดาห์ก่อน หนังสือพิมพ์เทเลกราฟเพิ่งรายงานว่า งานวิจัยเกี่ยวกับภัยมือถือชิ้นล่าสุดเกิดขึ้นในประเทศฟินแลนด์ ดินแดนบ้านเกิดของบริษัทมือถือยักษ์ใหญ่เจ้าหนึ่งนั่นเอง โดยมี “องค์การความปลอดภัยด้านรังสีและนิวเคลียร์” ของฟินแลนด์ รับหน้าที่เป็นผู้ทำการศึกษา
มะเร็งสมอง กับการใช้มือถือ
วิธีทำวิจัย ทางองค์การฯ แยกเก็บข้อมูลจากกลุ่มผู้ใช้มือถือ เกือบ 5,000 คน แยกเป็นผู้ใช้มือถือที่ป่วยเป็นมะเร็งสมองชนิด “Gliomas” Z1,521 คน และผู้ใช้ที่ไม่เป็นมะเร็งสมองอีก 3,301 คน เมื่อไม่นำเอาปัจจัยเกี่ยวกับระยะเวลาของการใช้มือถือมาพิจารณา คณะผู้วิจัยไม่พบความเชื่อมโยงระหว่างมือถือกับการเกิดมะเร็งสมอง
อย่างไรก็ตาม เมื่อนำปัจจัยเรื่องเวลาเข้ามาจับ จะพบว่า ร้อยละ 37 ของกลุ่มผู้ใช้มือถือที่เป็นมะเร็งสมอง ล้วนแล้วแต่มีประวัติการใช้มือถือมานานกว่า 10 ปี!
โดยมะเร็งที่ตรวจพบ ได้แก่ มะเร็งชนิด “Gliomas” หรือมะเร็งบริเวณระบบประสาท นอกจากนั้น ตำแหน่งที่เกิดมะเร็งจะเกิดขึ้นภายในศีรษะข้างที่ต้องแนบติดกับตัวเครื่องมือถือเป็นประจำ เบื้องต้นจึงตั้งสมมติฐานได้ว่า ความถี่และระยะเวลาการใช้มือถือนั้นยิ่งนานเท่าไหร่ ก็อาจเพิ่มความเสี่ยงก่อให้เกิดมะเร็งสมอง
แต่เหมือนเคยครับ นั่นคือ ทันทีที่ข่าวชิ้นนี้แพร่ออกสู่สาธารณะ ฝ่ายสมาคมผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือในฟินแลนด์ก็ออกมาแถลงว่า การทดลองครั้งนี้ไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่สามารถฟันธงลงไปได้ว่าการใช้มือถือสัมพันธ์กับการเกิดมะเร็งสมองอย่างแท้จริง
ใครเชื่อก็ขอให้ใช้มือถือเท่าที่จำเป็น ใครไม่เชื่อจะคุยวันละ 24 ชั่วโมงก็คงไปห้ามเขาไม่ได้หรอกครับ
คอลัมน์ หมุนก่อนโลก วิทยา ผาสุก http://futurethai.blogspot.com