เพศหญิงกับเพศชายนอกจากสรีระแล้ว ยังมีความสามารถและข้อจำกัดในหลายๆ ด้านแตกต่างกัน ซึ่ง นิตยสาร “สรรสาระ” หรือ “รีดเดอร์ส ไดเจสท์” ภาษาไทยฉบับเดือน ก.ค.ในรายงานเล็กๆ ชิ้นหนึ่งของ มอรีน แม็กคีย์ ระบุว่า ชายหญิงมีความสามารถไม่เท่ากันในการจดจำถ้อยคำและน้ำเสียง ความแตกต่างระหว่างเพศในด้านนี้มีข้อมูลทางการแพทย์ยืนยัน
หญิงช่างจำ-ชายช่างลืม
พ.ญ.แมรี แอนด์ เจ.ลีกาโต ผู้ก่อตั้งสมาคมการแพทย์สำหรับแต่ละเพศ มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย อธิบายว่า .. ร่างกายของหญิงและชายมีความแตกต่างกันเกือบทุกระบบ โดยเฉพาะสมองเป็นตัวอย่างชัดเจนที่สุด สมองบางส่วนของผู้หญิง (รวมถึงส่วนที่ควบคุมภาษา) มีการไหลเวียนเลือดและระดับฮอร์โมนเอสโทรเจนสูงกว่า ผู้หญิงจึงมีความจำดีกว่าผู้ชายในบางด้าน เช่น เสียงพูด
หมอลีกาโต เป็นเจ้าของหนังสือ “ทำไมผู้หญิงช่างจำ แต่ผู้ชายช่างลืม” เสริมว่า
…เสียงพูดหมายถึงคำโต้เถียง หรือการอ่านหนังสือออกเสียงดังๆ ผู้หญิงจดจำและนึกถึงเสียงพูดได้แม่นยำ เนื่องจากสมองส่วนนี้มีการไหลเวียนของเลือดสูงกว่า อีกด้าน คือ ประสบการณ์ที่เลวร้าย น่ากลัว และเคร่งเครียด
ขณะผู้หญิงเผชิญสถานการณ์เลวร้าย..
ในด้านนี้ พ.ญ.ลีกาโต อธิบายว่า ขณะผู้หญิงเผชิญสถานการณ์เลวร้าย เอสโทรเจนจะกระตุ้นสมองหลายส่วน ภาพเหตุการณ์จึงถูกจดจำอย่างแม่นยำกระทั่งรายละเอียด .. บางครั้งเพียงนึกถึงเรื่องเลวร้ายในอดีต ความรู้สึกแย่ก็คุกรุ่นขึ้นมาอีกครั้ง ราวกับเพิ่งประสบเหตุสดๆ ร้อนๆ ประโยชน์ของเรื่องนี้ คือ ทำให้ผู้หญิงเป็นพยานบุคคลที่ดีในคดีต่างๆ โดยเฉพาะคดีเกี่ยวกับอุบัติเหตุ
ทั้งสองเพศมีโอกาสหลงลืมเท่าๆ กัน..
ในรายงานของ แพทริเซีย เคอร์ทิส บอกว่า ทั้งสองเพศมีโอกาสที่จะเป็นโรคหลงๆ ลืมๆ ได้พอกัน แม้แต่ชั่วครู่ก็ตาม เช่น นึกไม่ออกว่าลืมแว่นตาไว้ที่ไหน หรือนึกชื่อเพื่อนร่วมงานคนใหม่ไม่ได้
พ.ญ.แซลดี เอส.ทัน ผอ.ศูนย์โรคความจำ โรงพยาบาลเบทอิสราเอล ดีโคเนส อธิบายว่า การหลงลืมในลักษณะนี้เป็นเครื่องบ่งบอกว่า ชีวิตของเรานั้นยุ่งเหยิงเกินไปจนขาดความใส่ใจ ความจำจึงไม่แม่น อีกทั้งยังมีปัญหาในการย้อนนึก
แฮร์รี โลเรน ผู้เขียนหนังสือ “จำแม่นในทุกอายุ : เคล็ดลับง่ายๆ ที่ช่วยให้สมองไม่แก่” แนะว่า ควรฝึกสมองให้มีความพร้อมอยู่เสมอ
เหตุผลก็คือ แม้เราจะพยายามออกกำลังกายให้ร่างกายแข็งแรง แต่ถ้าสมองทำงานบกพร่อง ร่างกายที่แข็งแรงก็คงไร้ประโยชน์
เก็บเรื่องมาเล่า : ชนา ชลาศัย