ใครที่ชอบรู้สึกง่วงระหว่างวัน ต้องนั่งสัปหงกตลอดเวลาเรียน วันนี้เรามีเคล็ดลับมาให้ลองนำไปใช้กันค่ะ จะมีวิธีไหนบ้าง ลองนำไปใช้กันได้เลย
12 วิธี ตื่นนอนแบบไม่ง่วง แก้อาการสัปหงก
1. หลังตื่นนอนเดินไปมา 10 นาที
มีผลการวิจัยของมหาวิทยาลัย California State University พบว่าคนที่ได้เดินสัก 10 นาทีหลังตื่นนอนจะมีแรงเหลือในชั่วโมงต่อมามากกว่าคนที่ไม่ได้เดิน เพราะการเดิน 10 นาทีหลังตื่นนอนช่วยเพิ่มพลังงานได้ถึง 2 ชั่วโมง เนื่องจากร่างกายได้สูบฉีดเลือดและออกซิเจนไปเลี้ยงสมอง และกล้ามเนื้อ จึงช่วยทำให้รู้สึกแอคทีฟมากขึ้น
2. อย่างีบเกินวันละครั้ง และอย่างีบใกล้เวลานอน
การงีบสัก 25 นาทีก่อนถึงเวลานอนสัก 6 – 7 ชั่วโมงจะช่วยให้คุณตื่นได้ตลอดทั้งวัน สิ่งสำคัญคืออย่างงีบเกินวันละครั้ง และอย่างีบใกล้เวลานอน
3. อย่านั่งจ้องแต่หน้าจอ
สำหรับคนที่มีพฤติกรรมต้องอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ ควรละสายตาไปมองอย่างอื่นบ้างงอย่างน้อย 2-3 นาที จะช่วยลดอาการเมื่อยล้าทางสายตาและลดอาการง่วงซึมได้
4. กินขนมรสหวานเพื่อเพิ่มพลังงาน
ควรเลือกขนมหวานที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย และช่วยเพิ่มพลังงานให้กับร่างกายได้ดี อาทิ เนยถั่วบนขนมปังโฮลวีท, โยเกิร์ตกับผลไม้ หรือ เบบี้แครอทกับน้ำสลัดไขมันต่ำ เป็นต้น
5. ชวนเพื่อนคุย
หากรู้สึกง่วงๆ ลองชวนเพื่อนคุยด้วยเรื่องขำๆ ฮาๆ ก็ได้ วิธีนี้จะช่วยทำให้สมองตื่นตัว และสลัดความง่วงทิ้งไปได้ แต่อย่าชวนคุยระหว่างเรียนนะจ๊ะ อันนี้ไม่ดีๆ
6. เปิดไฟไล่ง่วง
การอยู่ในบรรยากาศมืดๆ สลัวๆ จะส่งผลให้รู้สึกง่วงได้ เปิดไฟให้แสงสว่างส่องจ้า รับรองสมองตื่น และไล่ความง่วงไปได้แน่ๆ
7. หายใจเข้าลึกๆ
ช่วยเพิ่มระดับออกซิเจนในเลือด ช่วยลดอัตราการเต้นของหัวใจ และความดันโลหิต เพิ่มการไหลเวียนและประสิทธิภาพการทำงานของสมอง และยังช่วยเพิ่มพลังงานให้กับร่างกายด้วย
8. เปลี่ยนอิริยาบทไปทำอย่างอื่น
หากคุณทำอะไรสักอย่างอยู่แล้วเริ่มง่วง ลองเปลี่ยนไปทำอย่างอื่นดู วิธินี้จะช่วยให้สมองและร่างกายเกิดการตื่นตัวได้เช่นกัน
9. ดื่มน้ำ
อาการคอแห้ง หรือขาดน้ำทำให้เกิดอาการอ่อนเพลียได้ ดังนั้นควรดื่มน้ำให้มากๆ เพียงต่อความต้องการของร่างกาย หรือเลือกกินอาหาร, ผลไม้ ที่มีส่วนผสมของน้ำจะช่วยให้ร่างกายตื่นตัว
10. ออกไปเจอแสงแดด
ออกไปเจอแสงแดด หรือ มองไปข้างนอกที่สว่างๆ จะช่วยให้ร่างกายตื่นตัวตามสัญชาตญาณ เพราะแสดงแดดจะถูกจดจำว่าเป็นช่วงเวลาที่ต้องตื่นไม่ใช่เวลานอน ร่างกายก็จะตื่นตัวโดยอัตโนมัติ
11. ออกกำลังกายเบาๆ
จากการศึกษาพบว่าคนที่ออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 30 นาที จะช่วยให้ร่างกายมีพลังงานมากขึ้น และหากออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ร่างกายจะมีระดับพลังงานที่สูงขึ้นๆ มีพลังงานใช้ระหว่างวันมากขึ้นด้วย
12. นอนหลับให้เพียงพอ
ปัจจัยนี้สำคัญที่สุด การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงจะช่วยให้ร่างกายได้ฟื้นฟูพลังงาน และมีพลังงานเก็บไว้ใช้ในระหว่างวัน ลองไปทำกันดูแล้วคุณจะพบว่า การนอนให้เพียงพอ ไม่ต้องทำทุกอย่างที่กล่าวข้างต้นมาเลยก็ได้!
น้องเหมียวนอนสบายจริงๆ
ที่มา: www.thaihealth.or.th, ภาพ: www.pexels.com