ขออ้างอิงบทความจากคุณหมอนพพร
“โคน อวัยวะเพศ มีตุ่มสีขาวๆ คล้ายหนอง”
คำถาม : ผมอายุ 28 ปี มีแฟนและเรามีเพศสัมพันธ์กันแล้ว ผมมีกิจกรรมทางเพศกับแฟนและใช้วิธีสวมถุงยางอนามัยมาตลอด ปัญหาก็คือ เมื่อ 2 เดือนมานี้ผมสังเกตที่โคน อวัยวะเพศ มีตุ่มขึ้นมา ตุ่มมีสีขาวคล้ายๆ กับหนอง จะเป็นโรคหนองในหรือเปล่า แต่ไม่น่าใช่เพราะไม่ได้เที่ยวผู้หญิง และไม่ได้เป็นคนสำส่อนทางเพศ ถ้าผมเป็นโรคติดต่อจริงๆ ผมจะยังมีเพศสัมพันธ์กับแฟนได้ไหม ถ้าผมใช้วิธีสวมถุงยางอนามัยแฟนผมจะติดโรคจากผมได้หรือไม่ หรือต้องคุมกำเนิดอย่างอื่นร่วมด้วยจึงจะปลอดภัย
คำตอบ : อาการตุ่มที่เกิดขึ้นที่โคน อวัยวะเพศ อาจจะเป็น โรคหูดข้าวสุก (Molluscumcontagiosum) เป็นโรคผิวหนังชนิดหนึ่ง มีสาเหตุจากการติดเชื้อไวรัสที่ผิวหนัง แต่เป็นเชื้อไวรัสคนละชนิดกับที่ทำให้เกิดหูดทั่วไป
ส่วนมากมักพบในเด็กมากกว่าผู้ใหญ่เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันยังพัฒนาไม่เต็มที่ หูดข้าวสุกเริ่มแรกจะเป็นในร่มผ้า ต่อมาจึงกระจายออกมาภายนอก บริเวณที่พบได้แก่ หน้าอก ท้อง ข้อพับแขน รักแร้ หรือบริเวณที่สัมผัส หรือเสียดสีกันบ่อยๆ และบริเวณที่อับชื้น เช่น ขาหนีบ อวัยวะเพศ เป็นต้น หูดข้าวสุกติดต่อกันได้โดยการสัมผัสกัน รวมถึงการมีเพศสัมพันธ์กันถ้าไปสัมผัสถูกบริเวณที่เป็นก็สามารถติดต่อได้
แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับภูมิต้านทานของแต่ละคนรวมทั้งสุขลักษณะส่วนตัวด้วย ถ้าคุณไปสัมผัสกับผู้ที่เป็นโรคนี้แล้วหมั่นรักษาสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ หมั่นดูแลร่างกายอาบน้ำให้สะอาดอยู่เสมอ ก็สามารถป้องกันไม่ให้ติดโรคนี้มาได้
ยกเว้นในกรณีผู้ที่ติดเชื้อเอดส์ ซึ่งภูมิคุ้มกันบกพร่อง จะไวต่อการติดเชื้อชนิดนี้มากกว่าบุคคลทั่วไป การรักษาเมื่อพบว่าเป็นหูดข้าวสุก ควรรีบไปพบแพทย์แต่เนิ่นๆ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ และควรรักษาอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะหาย เพื่อป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ
การรักษามีหลายวิธี ได้แก่ การขูดออก การทำให้เย็นจัดด้วยไนโตรเจนเหลว การจี้ด้วยไฟฟ้า เป็นต้น ซึ่งจะรักษาแบบไหน ขึ้นอยู่กับขนาด จำนวน และตำแหน่งของหูดด้วย ข้อควรระวังเกี่ยวกับหูดชนิดนี้คือ มักเกี่ยวพันกับโรคมะเร็งได้ ถ้าพบว่าแฟนคุณเป็นหูดชนิดนี้ที่ปากมดลูกควรตรวจหาเซลล์มะเร็งด้วย
โรคหูดข้าวสุกที่คุณเป็นอยู่นี้ไม่ใช่โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ แต่ก็เป็นโรคติดต่อที่สามารถติดต่อกันได้โดยการสัมผัสบริเวณที่เป็น เช่น การกอดรัด จับมือ มีเพศสัมพันธ์กัน เป็นต้น
ถ้าคุณมีเพศสัมพันธ์กับแฟนคุณก็ต้องใส่ถุงยางอนามัยเป็นการป้องกันการแพร่เชื้อไปให้คู่ของคุณด้วย ถุงยางอนามัยนั้นถือเป็นการคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูง เพราะนอกจากจะป้องกันการตั้งครรภ์ได้แล้วยังป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้อีกด้วย ถ้าถุงยางที่คุณใช้ได้มาตรฐาน ไม่หมดอายุ ไม่รั่ว ไม่ซึม ก็ถือว่ามีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดโดยไม่ต้องใช้การคุมกำเนิดอย่างอื่นร่วมด้วย
อ้างอิงบทความจากคุณหมอนพพร
“อวัยวะเพศมีตุ่มคล้ายสิวสุก ”
คำถาม : ผมเคยมีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิงหลายคนที่ไม่ใช่ผู้หญิงขายบริการ ใช้ถุงยางเป็นบางครั้ง แต่ผมคิดว่าผมไม่ได้เป็นโรคอะไร เพราะผู้หญิงที่ผมมีอะไรด้วยเขาไปตรวจร่างกายแล้วปกติดีทุกคน แต่ที่อวัยวะเพศของผม มีตุ่มเล็กๆ ขึ้นมาประมาณ 8-10 เม็ด กระจายออกไปบริเวณกลางลำคล้ายสิว ผมเป็นมาเกือบ 2 เดือนแล้ว
สังเกตดูก็ไม่เห็นว่าเม็ดที่ว่าจะสุกแบบสิว แต่ว่ามีปริมาณเยอะมากขึ้นจากเดิมที่มี 3-4 เม็ด มันคือตุ่มหรืออาการอะไร ซึ่งปกติผมชอบเล่นฟุตบอลมาก จะเป็นตุ่มเหงื่อใช่ไหม
บริเวณขนก็มีตุ่ม แต่ตุ่มนี้มีมานานเกือบปีแล้วคล้ายสิวมาก เพราะมันสุกด้วยแล้วผมก็บีบจนเลือดออกและเป็นแผลเป็นปูดขึ้นมาคล้ายหูด และตอนนี้ก็มีขึ้นมาอีก 2-3 เม็ด ผมก็บีบเหมือนเดิม แถมมีอาการคันมาก อยากเกาแต่กลัวมันลุกลาม อยากทราบว่าสาเหตุของตุ่มทั้งสองที่เกิดขึ้นเกิดจากอะไร
คำตอบ : เม็ดตุ่มที่ขึ้นน่าจะเป็น เริม ที่ อวัยวะเพศ (Genital herpes simplex type 2) เกิดจากไวรัสที่ชื่อ Herpes simplex virus ไวรัสชนิดนี้ทำให้มีการติดเชื้อที่ผิวหนังและเยื่อบุ จึงส่งผลให้เกิดตุ่มที่มีอาการเจ็บ และมักจะเป็นๆ หายๆ ซึ่งมักติดเชื้อที่บริเวณอวัยวะเพศและทวารหนัก โดยสามารถแพร่เชื้อผ่านทางเพศสัมพันธ์ สาเหตุจึงน่าจะมาจากคู่นอน เนื่องจากการเปลี่ยนคู่นอนบ่อย แม้บางครั้งจะใส่ถุงยางอนามัยแล้วก็ตาม แต่เชื้ออาจจะสัมผัสเข้าที่บริเวณโคนอวัยวะเพศหรืออาจจะเป็นอะไรก็ได้ที่ติดต่อบริเวณนอกถุงยาง จึงควรไปพบแพทย์ผิวหนังจะได้รักษาให้ตรงกับโรคที่เป็น รวมทั้งควรไปตรวจเลือดด้วย
ขอบคุณ บทความจาก mornopporn.com