กินเจ ดูแลสุขภาพ อาหารเจ

5 ข้อควรระวังในการกินเจ !! กินเจอย่างปลอดภัย ไร้โรคถามหา

Home / สุขภาพทั่วไป / 5 ข้อควรระวังในการกินเจ !! กินเจอย่างปลอดภัย ไร้โรคถามหา

5 ข้อควรระวังในการกินเจ !! ช่วงนี้เป็นช่วงเทศกาลถือศีลกินเจ และด้วยความที่อาหารเจนั้นจะไม่มีเนื้อสัตว์ซึ่งเป็นคุณค่าอาหารในส่วนของโปรตีน อีกทั้งขั้นตอนการปรุงอาหารมักจะเป็นการทอด และผัด เป็นหลัก ถ้าหากกินอาหารเจแบบไม่ระวัง อาจจะส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาว

5 ข้อควรระวังในการกินเจ

5 ข้อควรระวังในการกินเจ 

ดังนั้นเราจึงมีข้อแนะนำจาก ผู้จัดการแผนงานโภชนาการเชิงรุก สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) มาฝากกันว่า ข้อระวังในการกินเจมีอะไรบ้าง

1. ระวังกินอาหารไม่ครบ 5 หมู่

โดยเฉพาะโปรตีน ในช่วงเจแหล่งโปรตีนที่คนกินเจสามารถกินได้ก็จะมาจาก เต้าหู้ ถั่วต่างๆ และในปัจจุบันนี้ยังมีโปรตีนเกษตรที่ทำเลียนแบบเนื้อสัตว์ออกมาวางขาย ไม่ว่าจะเป็นลูกชิ้น ไส้อั่ว ฯลฯ แต่โปรตีนเกษตรเหล่านี้ทำมาจากแป้ง ดังนั้นการกินโปรตีนเกษตรอาจจะต้องระวังอย่าทานมากเกินไป ไม่งั้นน้ำหนักตัวจะเพิ่มขึ้นแบบไม่รู้ตัว

2. ระวังอาหารรสจัด

อาหารรสจัดในทีนี้หมายถึง อาหารเค็มจัด และอาหารมันจัด เพราะหากทานอาหารมันจัดเป็นประจำ หรือทานติดต่อกันก็จะส่งผลให้ไขมันสะสมเยอะ บางรายไขมันอาจจะไปเกาะอุดตันตามเส้นเลือด ซึ่งจะส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาวทั้ง โรคอ้วน ไขมันอุดตันในเส้นเลือด ฯลฯ

อีกทั้งเครื่องปรุงให้รสเค็มในอาหารเจมักจะเป็นพวก ซอส ซีอิ๊วขาว ซึ่งเป็นเครื่องปรุงที่มีปริมาณโซเดียมสูง และหากกินอาหารที่โซเดียมสูงก็จะทำให้ไตทำงานหนัก พอไตทำงานหนักเกินไปก็จะเสี่ยงต่อการเป็นโรค เบาหวาน ความดัน และหัวใจ ตามมา

3. ระวังการกินผัก

ผู้ที่ทานอาหารเจควรทานผักสดมากกว่าผักดอง เพราะผักสดนั้นให้คุณค่าทางโภชนาการมากกว่าผักดอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ช่วงเจมีของที่ห้ามทานเป็นจำนวนมากคุณค่าทางสารอาหารที่คนเราควรได้รับในแต่ละวันก็อาจจะหายไปบ้าง ดังนั้นก็ควรเลือกกินผักสดที่ให้ประโยชน์มากกว่า

และสำหรับใครที่ซื้อผักมาทำอาหารเจกินเอง เพราะกลัวร้านในตลาดใช้วัตถุดิบที่ใม่สดใหม่ ขั้นตอนการปรุงไม่สะอาด ก็ควรแช่ผักที่ซื้อมาลงในน้ำที่ผสมเกลือลงไปประมาณ 1-2 ช้อนโต๊ะ จากนั้นก็ทิ้งเอาไว้ 2-5 นาที แล้วล้างด้วยน้ำเปล่าอีก 1 รอบ ก็จะช่วยล้างสารพิษออกจากผักได้ประมาณ 30-70%

5 ข้อควรระวังในการกินเจ 

4. ระวังอาหารที่เคี่ยวนานๆ

อาหารที่เคี่ยวนานๆ  เช่น ต้มจับฉ่าย เพราะการปรุงอาหารด้วยวิธีการเคี่ยว ถ้าเคี่ยวนานเกินไปอาจทำให้คุณค่าอาหารเสียไป อีกทั้ง ถ้าผักที่นำมาเคี่ยวไม่ได้ล้างให้สะอาด แล้วนำมาปรุงก็เท่ากับว่าสารพิษก็จะตกค้างอยู่ในหม้อ

 5. ระวังขาดไอโอดีน

การไม่ได้กินอาหารทะเลเป็นระยะเวลาหนึ่งก็อาจทำให้ขาดไอโอดีนได้ ซึ่งก็จะเป็นอันตรายต่อร่างกาย เพราะไอโอดีนจะเกี่ยวข้องกับการสร้างไทรอยด์ฮอร์โมน ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำงานของเซลล์ต่างๆ ในร่างกาย นั่นหมายถึงการทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกายรวมถึงการพัฒนาเติบโตของร่างกายอีกด้วย ดังนั้นการกินเจควรจะเติมเกลือไอโอดีนปรุงรสอาหารก็จะช่วยทดแทนในส่วนนี้ได้

ข้อมูลจาก :  สสส.

บทความแนะนำ