จริงหรือมั่ว สมาร์ทโฟน สายตา โรคตาแห้ง โรคมะเร็งตา

ห้ามเปิดโทรศัพน์มือถือ หลังปิดไฟโดยเด็ดขาด !! จริงหรือมั่ว

Home / สุขภาพทั่วไป / ห้ามเปิดโทรศัพน์มือถือ หลังปิดไฟโดยเด็ดขาด !! จริงหรือมั่ว

อันตรายเอิ้อมอยู่แค่หน้าคุณเอง คนที่เล่นมือถือบ่อยๆ ตอนกลางคืน ก่อนนอน มาอ่านกันนะคะ

คุณมีโอกาส ตาบอด ตอนนี้ที่ฮ่องกงและเมืองจีนมีผู้คนที่มีอายุ 30-40 ปี ไปหาหมอตาเพราะมีปัญหาเป็นโรคตาแห้ง และบางคนรักษาแล้วก็ไม่หายกลายเป็นโรคมะเร็งตา

วงการแพทย์ที่ฮ่องกงหลังหาสาเหตุเจอแล้ว คือผู้ป่วยเหล่านี้ล้วนเป็นคนที่ชอบเล่น Smart phone ในที่มืด หรือเล่นหลังจากปิดไฟ นอนเล่นในที่มืดบ่อยๆ และนานๆ เข้า แสงที่รุนแรงส่องจากโทรศัพท์เข้าตา ทำลายเยื่อตา เริ่มรู้สึกตาแห้งนานๆเข้ากลายเป็นโรคมะเร็งตา มีโอกาสตาบอดสนิท น่ากลัวมากๆ

แชร์ต่อๆ กันมาใน Facebook.com

ห้ามเปิดโทรศัพน์มือถือ หลังปิดไฟโดยเด็ดขาด !! จริงหรือมั่ว

ห้ามเปิดโทรศัพน์มือถือ หลังปิดไฟโดยเด็ดขาด !! จริงหรือมั่ว

จ้องมือถือในที่มืดแล้วจะเป็นมะเร็งตา สรุปว่าจริงหรือมั่ว?

มะเร็งตาเป็นได้หากเล่นมือถือในที่มืดนานๆ จริงหรือ เห็นคนแชร์กันว่าการปิดไฟเล่นสมาร์ทโฟนเป็นอันตรายถึงขั้นตาบอดเลยเชียว

มีข้อมูลบอกต่อกันมาบ่อย ๆ ว่าการใช้สมาร์ทโฟนอาจทำให้สุขภาพเสียได้หลายอย่าง อย่างล่าสุดที่มีการแชร์ข้อความเตือนขาแชททั้งหลายให้รับทราบว่า “ห้ามเปิดโทรศัพท์มือถือหลังปิดไฟเด็ดขาด เพราะจะมีโอกาสตาบอด อย่างที่มีชาวฮ่องกงในเมืองจีนพากันไปหาหมอด้วยอาการตาแห้ง แต่บางคนรักษาไม่หายเลยกลายเป็นโรคมะเร็งตา ซึ่งสาเหตุก็มาจากการนอนเล่นโทรศัพท์มือถือในที่มืดบ่อย ๆ และนาน ๆ ทำให้แสงจากโทรศัพท์เข้าตาจนตาแห้ง นาน ๆ เข้าก็กลายเป็นโรคมะเร็ง มีโอกาสตาบอดสนิท”

อ่านข้อความข้างบนแล้วก็น่าตกใจว่าการเล่นโทรศัพท์มือถือในที่มืดก่อให้เกิดอาการรุนแรงขนาดนั้นเชียวหรือ เรื่องนี้ อาจารย์เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พร้อมชี้แจงความจริงให้ฟัง

โดยอาจารย์เจษฎา ได้โพสต์เรื่องนี้ลงใน เฟซบุ๊ก Jessada Denduangboripant ย้ำชัด ๆ ว่า เรื่องนี้ “หลอกลวง”

ทั้งนี้เนื้อหาที่แชร์กันนั้น ไม่มีที่มาว่ามาจากงานวิจัยไหน แค่อ้างง่าย ๆ ว่า “วงการแพทย์” ซึ่งจริง ๆ แล้วก็ผิดตั้งแต่ที่พูดเรื่องตาแห้งจนทำให้เป็นมะเร็งตาแล้ว เพราะโรคมะเร็งจอตาเป็นโรคทางพันธุกรรมที่มักจะเป็นตั้งแต่เด็กแรกเกิด หรือจากการอักเสบในตาอย่างรุนแรงจนเป็นหนองในตา

สำหรับจอสมาร์ทโฟนนั้นก็ไม่ต่างจากจอคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กสมัยใหม่ที่ไม่ได้ปล่อยรังสีอะไรออกมาให้เป็นอันตรายต่อตา ต่างกับสมัยก่อนที่ใช้จอแก้วเหมือนกับจอมอนิเตอร์ ซึ่งมีรายงานวิจัยในประเทศเยอรมนียืนยันชัดเจนว่า มือถือไม่มีความสัมพันธ์อะไรกับมะเร็งตา ดังนั้นข้อมูลที่แชร์กันจึงไม่เป็นความจริงแน่นอน

อย่างไรก็ตาม การอ่านหนังสือในที่มืด หรือดูจอภาพสว่างในที่มืดก็ไม่ใช่เรื่องที่ควรทำ เพราะทำให้ตาล้า ตาทำงานหนักเหมือนกัน และเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นต้อหิน ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเคยเตือนไว้ ดังนั้น หลีกเลี่ยงได้ก็ควรหลีกเลี่ยง

โดย อาจารย์เจษฎา : Jessada Denduangboripant

ข้อมูลเมื่อ 22 พ.ค. 58