อากาศที่ดีและบริสุทธิ์ คือปัจจัยสี่ที่มนุษย์ต้องการในการดำรงชีพ แต่เมื่อใดก็ตามที่อากาศเปลี่ยนแปลงไปมีปริมาณ ของฝุ่นละออง ก๊าซ กลิ่น หมอกควัน ไอระเหย เขม่าและกัมมันตภาพรังสี เข้ามาปนเปื้อนอยู่ในบรรยากาศมากเกินไป จนกลายเป็นมลพิษทางอากาศ ทำให้เกิดอันตรายแก่มนุษย์ สัตว์ พืช หรือทรัพย์สินต่างๆ เช่น ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก ที่เรียกกันว่า PM 2.5 ที่ลอยล่องอยู่ในอากาศทั่วพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล และมีค่าเกินมาตรฐานจนส่งผลกระทบต่อชีวิตผู้คนในเมืองเป็นวงกว้าง อันเป็นผลจากการขยายตัวของเมืองและประชากรในขณะนี้ แล้วคนไทยจะต้องเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับฝุ่นจิ๋วภัยร้ายกันอย่างไร แคมปัสสตาร์ นำเสนอบทความ วิธีการใส่หน้ากาก N95 ที่ถูกต้อง
การเลือก และ วิธีการใส่หน้ากาก N95 ที่ถูกต้อง
PM 2.5 มีผลกับสุขภาพอย่างไร
ฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM 2.5 มีขนาดเล็กมาก นับเป็นภัยที่มองไม่เห็น ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น และสามารถเข้าสู่ร่างกายได้อย่างง่ายดายผ่านการหายใจ และสามารถทะลุเข้าไปถึงถุงลมปอดได้ทันที ในระยะสั้นจะทำให้เกิดการระคายเคืองจมูก คอ ไอ มีเสมหะ และมีผลต่ออาการโรคทางเดินหายใจ และยังทำให้เกิดการระคายเคืองตา นอกจากนี้ยังทำให้มีอาการแน่นหน้าอก หายใจถี่ หลอดลมอักเสบ เกิดอาการหอบหืด ถุงลมโป่งพอง และในระยะยาวเมื่อเกิดการสะสมเป็นเวลานานอาจเป็นสาเหตุให้เกิดโรคระบบทางเดินหายใจที่ร้ายแรงมากขึ้น เช่น ถุงลมโป่งพอง มะเร็งปอด ได้
ดังนั้น ทุกคนที่อยู่ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงจากฝุ่นละออง PM 2.5 ควรเฝ้าระวังตัวเองให้ปลอดภัย โดยเฉพาะกลุ่มผู้ที่มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับทางเดินหายใจ โรคหอบหืด หรือโรคภูมิแพ้ กลุ่มผู้สูงอายุ เด็ก และสตรีมีครรภ์ ที่อาจมีภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอกว่าคนทั่วไป และผู้ที่จำเป็นจะต้องทำงานในที่โล่งแจ้ง เช่น ตำรวจจราจร คนขับรถประจำทาง คนขับมอเตอร์ไซค์ พ่อค้า แม่ค้าริมทาง เป็นต้น
เลือก N95 คู่ใจรับมือฝุ่นจิ๋ว
ตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า ในภาวะที่เกิดมลพิษทางอากาศ ควรหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง เพื่อลดการสัมผัสกับฝุ่นจิ๋ว แต่ในผู้ที่จำเป็นจะต้องสัมผัสและอยู่ท่ามกลางฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ต่อเนื่อง จะต้องสวมใส่หน้ากากกรองอากาศที่ได้คุณภาพมาตรฐานทุกครั้ง เพื่อกรองฝุ่นละอองขนาดเล็กได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โดยประเภทของหน้ากากที่ควรเลือกใช้ในการปกป้องสุขภาพจากฝุ่นจิ๋ว 3เอ็ม ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านอาชีวอนามัย แนะนำว่า ควรเป็นหน้ากากกรองอากาศชนิด N95 ตามมาตรฐาน NIOSH ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่สามารถป้องกันฝุ่นที่มีขนาดเล็ก 0.3 ไมครอน ได้อย่างน้อย 95% ดังนั้น จึงสามารถป้องกัน PM 2.5 ได้
สวมใส่หน้ากากปลอดภัย
3เอ็ม ระบุว่า สิ่งสำคัญในการสวมใส่หน้ากากกรองอนุภาค คือ ผู้สวมใส่จะต้องทำความเข้าใจขั้นตอน และข้อปฏิบัติ ในการใช้งานของหน้ากากแต่ละรุ่นอย่างเคร่งครัด ห้ามดัดแปลงวิธีการสวมใส่และปรับแต่งวัสดุบนหน้ากาก
เนื่องจากหน้ากาก N95 เป็นหน้ากากชนิดกรองอนุภาคขนาดเล็ก ผู้ใช้จำเป็นจะต้องทำความคุ้นเคยในการใช้งาน ตั้งแต่ขั้นตอนการเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งาน สวมใส่ให้แนบกระชับกับใบหน้า โดยสามารถตรวจสอบความแนบสนิท ของหน้ากากป้องกันฝุ่นละอองกับใบหน้า (User Seal Check) ทุกครั้งที่สวม ผ่านการใช้มือทั้งสองข้างโอบรอบหน้ากากแล้วหายใจออกแรงกว่าปกติเล็กน้อย ในกรณีที่หน้ากากกระชับแนบสนิทดีแล้ว จะไม่มีการรั่วของลมหายใจออกมาสัมผัสกับใบหน้าได้
นอกจากนี้ ผู้ใช้งานไม่ควรใช้หน้ากากร่วมกับผู้อื่น และหมั่นสังเกตคุณภาพของหน้ากาก หากเริ่มรู้สึกอึดอัด หายใจไม่สะดวก แสดงว่าหน้ากากเริ่มอุดตัน หรือรู้สึกว่าหน้ากากไม่กระชับกับใบหน้าเท่าที่ควร อาจเป็นเพราะหน้ากากเริ่มชำรุด รวมทั้งหน้ากากสกปรก ควรเปลี่ยนหน้ากากชิ้นใหม่ เพื่อประสิทธิภาพในการกรองอากาศและลดความเสี่ยงในการเจ็บป่วยหรือเกิดโรคจากอนุภาคที่ปนเปื้อนในอากาศ
ร่วมมือร่วมใจแก้ไขยั่งยืน
มาตรการระยะยาวสำหรับรับมือฝุ่น PM 2.5 คือ ทุกภาคส่วนต้องมีจิตสำนึกร่วมกันเพื่อลดกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการเพิ่มขึ้นของฝุ่นละออง โดยเฉพาะภาครัฐควรออกนโยบายมาตรการควบคุมมลพิษ ผังเมืองให้ชัดเจน เพื่อลดความเข้มข้นของมลพิษจากไอเสียรถยนต์ที่ออกมาจากท่อไอเสียให้ต่ำลง ลดสภาพการจราจรติดขัดในเมืองให้เหลือน้อยที่สุด ลดปริมาณรถยนต์บนท้องถนน ลดปริมาณฝุ่นจากการก่อสร้าง ลดการเผาขยะ ผ่านกระบวนการคิดและลงมือปฏิบัติอย่างยั่งยืน เพื่อลูก เพื่อหลาน เพื่ออนาคตของประเทศไทย
ที่มา 3M