ปัจจุบันเราปฏิเสธไม่ได้ว่าการดำเนินชีวิตต้องอยู่กับความเร่งรีบแข่งขันกับเวลา ทำให้สุขภาพของหลายคนแย่ลงไม่ว่าจะเป็นการรับประทานอาหารไม่ตรงเวลา ดื่มน้ำไม่เพียงพอ ไม่มีเวลาออกกำลังกาย เครียดจากการงาน รวมไปถึงการพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ ส่งผลให้สุขภาพผิวพรรณทรุดโทรม หน้าแก่กว่าวัยไปตามๆ กัน
นพ.จักกฤษณ์ อัครเศรณี นายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณประจำเศรณีคลินิก ให้ความรู้ว่า การพักผ่อนไม่เพียงพอส่งผลกระทบต่อสุขภาพผิวโดยเฉพาะผิวหน้าได้ เพราะร่างกายจะมีระดับ Stress Hormone (Cortisol) สูงขึ้น โดยพบว่า จะเกิดภาวะไวต่อการแพ้และอักเสบของผิวได้ง่ายขึ้น ทำให้เกิดผื่นแพ้ชนิดต่าง ๆ รวมไปถึงโรคอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับภาวะภูมิคุ้มกันของผิวอีกด้วย นอกจากนี้ผิวหน้าที่มันเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ปริมาณสิวและสิวอักเสบเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย และ Metabolism ของเซลล์ต่าง ๆ สูงขึ้น เกี่ยวข้องโดยตรงต่อ Aging Process ของผิว ทำให้ผิวเหี่ยวย่นเกินกว่าวัย
วิธีดูแลผิวหน้าให้สดใส ขณะพักผ่อนไม่เพียงพอ
ดังนั้นเมื่อเราพักผ่อนน้อย จะมีผลกระทบต่อผิวคือ ผิวหมองคล้ำขึ้น ไวต่อการแพ้ การอักเสบ ติดเชื้อและผื่นคันแดงเกิดง่ายขึ้น ส่วนผิวที่แห้งอยู่แล้วก็จะยิ่งแห้งกร้านและเป็นขุยมากขึ้น และสำหรับบางคนที่มีปัญหาหน้ามันอยู่แล้วก็จะยิ่งหน้ามันมากขึ้นรวมถึงมีสิวอักเสบมากขึ้นด้วย นอกจากนี้ยังก่อให้เกิดริ้วรอยแห่งวัยรวดเร็วขึ้นด้วย ซึ่งวิธีแก้ไขง่าย ๆ ที่เราทราบกันดีคือการพักผ่อนและออกกำลังกายให้มากขึ้น แต่ในเมื่อหลาย ๆ คนไม่สามารถทำได้จึงต้องมองหาวิธีดูแลอื่น ๆ ที่จำเป็นเพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อน ได้แก่
1. ใครที่มีปัญหาหน้ามันและมีสิวเห่อ ต้องพยายามรักษาหน้าให้แห้งมากขึ้น ด้วยการล้างหน้าด้วยเจลล้างหน้าที่มีสารช่วยลดความมันบนใบหน้า กลุ่ม AHA BHA มีข้อควรระวังคือ อาจเกิดอาการระคายเคืองหากไม่เคยใช้มาก่อน ดังนั้นควรเริ่มใช้จากปริมาณและความถี่น้อย ๆ ก่อนสักระยะ และควรพบแพทย์หากมีสิวมากขึ้นเพื่อรับยากลุ่มฆ่าเชื้อทั้งแบบยาทาหรือรับประทาน เพื่อไม่ให้มีสิวอักเสบมากเกินไป เนื่องจากสิวอักเสบเหล่านี้จะทิ้งแผลและรอยดำในระยะยาว และไม่ควรล้างหน้าบ่อย แกะ บีบสิว เนื่องจากจะทำให้อาการโดยรวมยิ่งแย่ลงจนเป็นหลุมสิวหรือสิวอักเสบเรื้อรังในที่สุด
2. กรณีที่ผิวแพ้มาก มีอาการแสบ แห้ง ลอกหรืออาการแพ้ ผื่นคัน ควรหาครีมบำรุงที่ไม่กระตุ้นการเกิดสิวมาใช้ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวที่อ่อนแอและสูญเสียความชุ่มชื้นได้ง่าย ซึ่งครีมบำรุงนี้จะทำให้อาการแสบแดงแห้งลอกทุเลาลงได้
3. หาครีมที่มีส่วนประกอบของ สารออกฤทธิ์กดการสร้างของเซลล์เม็ดสี เช่น วิตามินซี รวมถึงทานวิตามินเสริมในกลุ่มวิตามินซี วิตามินบี วิตามินอี และกลูตาไธโอน เพื่อยับยั้งการสร้างเม็ดสีที่มากขึ้นในช่วงเวลาที่พักผ่อนน้อย
4. หลีกเลี่ยงการถูกแสงแดดจัด ๆ เป็นระยะเวลานาน ๆ ร่วมกับใช้ครีมกันแดดชนิดมีค่า SPF สูง ๆ และ PA +++ เนื่องจากช่วงนี้ผิวหน้าอ่อนแอมากและมีปัจจัยที่ทำให้ดำคล้ำได้ง่าย ถ้ายิ่งถูกแดดก็จะยิ่งกระตุ้นให้ผิวดำคล้ำมากขึ้น และ
5. ดื่มน้ำสะอาดในปริมาณมากขึ้นกว่าปกติ เนื่องจากช่วงนี้ผิวจะสูญเสียความชุ่มชื้นไปได้ง่าย จากการที่กระบวนการสร้างภูมิคุ้มกันและ Collagen ของผิวหนังอ่อนแอลง
อย่างไรก็ตามคำแนะนำข้างต้นเป็นเพียงการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าและแก้ที่ปลายเหตุเท่านั้นยังไงก็ไม่สามารถชดเชยการพักผ่อนจริง ๆ ได้ ดังนั้นการแก้ปัญหาที่ดีที่สุดคือ การนอนพักผ่อนที่เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายมีโอกาสได้ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอเพื่อสุขภาพผิวดี แข็งแรง ขาวใส ไร้สิวค่ะ