การออกกำลังกาย ความเชื่อผิดๆ

วิ่งแล้วขาใหญ่ ! 5 ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับการออกกำลังกาย

Home / สุขภาพทั่วไป / วิ่งแล้วขาใหญ่ ! 5 ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับการออกกำลังกาย

สมัยนี้คนหันมารักสุขภาพกันมากขึ้น ใส่ใจเรื่องอาหารกันมากขึ้น และออกกำลังกายกันมากขึ้น แต่หลายคนก็ยังมีความเข้าใจผิด ๆ เกี่ยวกับการออกกำลังกายกันอยู่ วิ่งแล้วขาใหญ่บ้างล่ะ เหงื่อออกแล้วผอมบ้างล่ะ วันนี้เราจะพาทุกคนไปไขข้อข้องใจกันว่าความเชื่อเหล่านั้น แท้จริงแล้วมันเป็นยังไง…

5 ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับการออกกำลังกาย

วิ่งแล้วขาใหญ่

“ไม่วิ่งหรอก เดี๋ยวขาใหญ่” หลายคนโดยเฉพาะสาว ๆ ชอบกลัวว่าถ้าวิ่งแล้วกล้ามขาจะใหญ่ กล้ามจะเป็นลูก ๆ แต่ในความเป็นจริงแล้วการออกกำลังอะไรก็ตาม ที่ไม่ได้ใช้แรงกล้ามเนื้ออย่างเต็มที่ จะไม่ทำให้กล้ามเนื้อใหญ่ขึ้น โดยเฉพาะ การวิ่ง ที่ใช้แรงกล้ามเนื้อทีละนิดแต่นาน ๆ  จะช่วยเผาผลาญไขมันที่ติดอยู่กับบริเวณกล้ามเนื้อน่อง จึงไม่ได้ทำให้น่องโตขึ้น นอกเสียจากเราไปออกกำลังแบบที่ต้องใช้แรงกล้ามเนื้อหนักมาก อย่างการเล่นเวทหนัก ๆ ปั่นจักรยานระยะไกลหรือปั่นขึ้นเขา

ออกกำลังกายตอนท้องว่างเบิร์นไขมันได้ดีกว่า

มีคนไม่น้อยที่เข้าใจว่าการออกกำลังกายตอนท้องว่างจะเบิร์นได้ดีกว่า โดยเฉพาะตอนเช้า ๆ ตื่นมาแคะขี้ตา แล้วไปออกกำลังกาย เพราะคิดว่าในเมื่อเรายังไม่ได้กินอะไร ร่างกายก็จะเบิร์นไขมันเก่าไงล่ะ น้ำหนักลดแน่นอน!

ระหว่างที่ออกกำลังกาย ร่างกายจะต้องการกลูโคสมาใช้เป็นพลังงาน เพื่อเป็นกำลังเสริมให้นำไขมันเก่ามาใช้ระหว่างออกกำลังกาย เพราะฉะนั้น ถ้าเราท้องว่าง และไม่มีน้ำตาลในเลือดเพียงพอ ร่างกายก็จะใช้ไกลโคเจนจากกล้ามเนื้อแทน ซึ่งนอกจากจะไม่ได้เบิร์นไขมันแล้ว ยังดึงกล้ามเนื้อเราไปใช้อีกด้วย และอีกอย่างเมื่อน้ำตาลน้อย เราก็จะไม่มีแรง เหนื่อยง่าย ถ้าหนักมาก ๆ อาจจะหน้ามืดเป็นลมได้

5 ความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับการออกกำลังกาย

ผู้หญิงเล่นเวทแล้วจะล่ำเหมือนผู้ชาย

สาว ๆ หลายคนกลัวการเล่นเวท เพพราะคิดว่ายิ่งเล่นเวทกล้ามก็ยิ่งใหญ่ กลายเป็นสาวถึกบึกบึน ใส่เสื้อผ้าอะไรก็ไม่งาม แต่จริง ๆ แล้วอัตราการสร้างกล้ามเนื้อของผู้หญิงน้อยกว่าผู้ชายถึงครึ่งหนึ่ง เพราะมีฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนน้อยกว่ามาก นั่นหมายความว่าการที่สาว ๆ จะล่ำบึ้กขึ้นมาได้นั้นจะต้องใช้เวลานานและการฝึกที่หนักมากทีเดียว ยิ่งกว่านั้นการเล่นเวทยังจะช่วยกระตุ้นการทำงานของกล้ามเนื้อ ทำให้ร่างกายยิ่งเบิร์นได้ดีอีกด้วย

เหงื่อออกแล้วผอม

หลายคนคิดว่าออกกำลังกายนิด ๆ หน่อย แค่พอให้เหงื่อออกก็ได้เบิร์นแล้ว แต่จริง ๆ แล้ว เหงื่อที่ออกมาตอนที่เราออกกำลังกายนั้น มันคือ น้ำ ที่ร่างกายต้องขับออกมาเพื่อระบายความร้อน และน้ำหนักที่หายไปทันที หลังจากที่ออกกำลังกายเสร็จ ก็คือน้ำ ไม่ใช่ไขมัน แต่ถ้าอยากจะเบิร์นไขมันจริง ๆ ควรจะออกกำลังกาย 40-60 นาที ขึ้นอยู่กับประเภทของการออกกำลังกาย ถ้าแค่เหงื่อออกแล้ว ได้เบิร์นไขมันจริง ยังงี้ไม่ต้องออกกำลังกาย แค่ไปยืนตากแดดประเทศไทยก็ผอมแล้ว จริงมั้ย?

ไม่เจ็บ ก็ไม่ได้ผล

หลายคนชอบคิดว่า ออกกำลังกายแล้วเจ็บกล้ามเนื้อ เท่ากับร่างกายสร้างกล้ามเนื้อ การออกกำลังกายจะเห็นผลก็ต่อเมื่อเราได้ออกแรงจนปวดเมื่อยไปทั้งตัว

แต่จริง ๆ แล้ว การที่เราออกกำลังกายแล้วเจ็บ ตึงกล้ามเนื้อบ้างก็เป็นเรื่องที่ควรจะเป็น การที่คุณมีอาการเจ็บก็เป็นสิ่งที่บอกกลาย ๆ ว่าคุณกำลังทำให้ร่างกายได้รับความเสียหาย แต่ถ้าเจ็บมากกว่าปกติ เจ็บจนไม่ไหว ก็ห้ามฝืน เพราะอาจจะทำให้เราบาดเจ็บหนัก และต้องรักษาตัวกันไปยาว ๆ แบบนั้นก็ไม่คุ้มนะคะ

ขอบคุณข้อมูลจาก: fit4funrelax, feelfirm

Writtern by: Typrn

บทความแนะนำ