ปัญหาที่มักจะกวนใจของสาวๆ หลายคน นั่นก็คือเรื่องรูปร่าง ทรวดทรง ซึ่งบางคนนั้น พยายามที่จะควบคุมอาหาร และออกกำลังกายกันสารพัดวิธีแล้ว แต่เจ้าพุงก็ยังยื่น ต้นแขนก็ยังใหญ่ แล้วก็มักจะโผล่มาเป็นอุปสรรค ขัดขวางความงามกันอยู่เรื่อยไป
ไขมันส่วนเกินและเซลลูไลท์ ที่มีการสะสมอยู่ตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บริเวณรอบเอว ต้นแขน ต้นขานั้น จัดว่าเป็นไขมันส่วนเกินที่กำจัดได้ยากที่สุด ในบางคน ถ้ามองดูรูปร่างโดยรวมแล้ว ก็ไม่ได้อ้วนอะไรเลย แต่ก็ต้องมานั่งกลุ้มใจกับไขมันส่วนเกินพวกนี้
เคล็ดลับดูแลร่างกายให้หุ่นฟิตและเฟิร์ม
สำหรับการดูแลหุ่นให้ฟิตและเฟิร์มอยู่ตลอดนั้น จำเป็นต้องอาศัยความมีวินัยในตัวเอง และกำลังใจที่ดีเยี่ยม มีหลักการง่ายๆ คือหากคุณรับประทานอาหารในแต่ละวัน ที่ให้พลังงานเกินกว่าที่ร่างกายคุณนั้นต้องการ พลังงานส่วนเกินเหล่านั้นก็จะไปทำการสะสมตัวอยู่ในรูปของไขมันตามส่วนต่างๆ ดังนั้น ถ้าหากคุณต้องการรักษารูปร่างทรวดทรงให้สมส่วนล่ะก็ คุณก็จะต้องทำการควบคุมปริมาณในการรับประทานอาหาร และการออกกำลังกายให้ร่างกายมีความสมดุล ห้ามตามใจปาก ห้ามขี้เกียจ หรือผัดวันประกันพรุ่งเป็นอันขาด
การโหมลดน้ำหนัก
จงจำไว้ว่า การหักโหมลดน้ำหนักเป็นครั้งเป็นคราวนั้น ไม่ได้ช่วยให้คุณมีรูปร่างที่ดีได้นานเลย สุดท้ายแล้ว หากนิสัยเดิมๆ ของคุณกลับมา ก็คงไม่แคล้วกลับมามีรูปร่างที่อ้วนอีก หรือในบางคนก็อาจจะต้องเผชิญกับสภาวะ Yo-Yo Effect ที่จะทำให้คุณมีรูปร่างอ้วนกว่าเดิมอีกด้วย
กฎทองของการรักษาหุ่น
ก็คือ ต้องดูแลการรับประทานอาหารและการออกกำลังกายให้มีความสมดุลกับความต้องการของร่างกายคุณ จงจำไว้ว่าอัตราการเผาผลาญพลังงานของแต่ละคนนั้นจะแตกต่างกันไป และเมื่อเวลาหรือวิถีชีวิตของคุณมีการเปลี่ยนแปลงไป อัตราการเผาผลาญพลังงานในร่างกายก็อาจจะเปลี่ยนแปลงไปด้วย
ถ้าหากคุณรู้ตัวว่าเป็นพวกสาวออฟฟิศ วันๆ เอาแต่นั่งโต๊ะทำงาน ไม่ค่อยได้ใช้พลังงานสักเท่าไรล่ะก็ ก็ควรที่จะเลือกรับประทานอาหารที่มีปริมาณเส้นใยสูง แต่ให้พลังงานที่ต่ำ และที่สำคัญ ก็ควรหาเวลาไปออกกำลังกายบ้าง เพื่อจะช่วยให้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง
ถ้าหากอยากฟิตหุ่นเฉพาะเป็นส่วนๆ ก็อาจจะบริหารร่างกายเฉพาะส่วนเป็นกรณีพิเศษ เพื่อความฟิตและเฟิร์ม หากสามารถทำเช่นนี้ได้เป็นกิจวัตรแล้ว หุ่นของคุณก็ฟิตและเฟิร์มอย่างที่ใจคุณต้องการแล้วล่ะค่ะ
เคล็ดลับ การสกัดความอ้วน
– ควรเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ให้พลังานในปริมาณพอดีกับความต้องการของร่างกายในแต่ละวัน
– ไม่ควรที่จะอดอาหาร แม้จะต้องการลดความอ้วนก็ตาม เพราะอาจจะทำให้เกิดอาการหิวจัด จนรับประทานอาหารเกินความจำเป็นในมื้อต่อไปได้
– ค่อยๆ เคี้ยว อาหารให้ช้าๆ และเคี้ยวให้ละเอียด อย่าทำกิจกรรมอื่นๆ ในระหว่างที่กำลังรับประทานอาหาร เพราะจะทำให้คุณไม่รู้ตัวว่า คุณรับประทานอะไรไปแล้วบ้าง ทำให้ร่างกายได้รับปริมาณอาหารเกินความต้องการได้
– ควรจะเน้นอาหารประเภทที่มีปริมาณไขมันต่ำ มีปริมาณกากใยที่สูง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อาหารจำพวกเนื้อปลา ผัก และผลไม้
– ควรเลือกรับประทานอาหารที่ปรุงด้วยวิธีการต้ม หรือลวก แทนการทอด หรือผัด เพราะน้ำมันจากการปรุงอาหาร อาจจะเป็นตัวการที่สำคัญที่ทำให้คุณอ้วนมากขึ้น
– รับประทานอาหารที่มีพริกไทย หรือเครื่องเทศเป็นส่วนผสมในการประกอบอาหาร เพราะว่าจะช่วยกระตุ้นระบบการย่อยและเผาผลาญของไขมันได้
– หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารกรุบกรอบ ขนมหวาน ถ้าหากรู้สึกหิวในระหว่างมื้อ ก็ให้รับประทานผลไม้ที่มีรสไม่หวานมาก แต่มีปริมาณเส้นใยที่สูง เช่น แอปเปิล สับปะรด หรือแก้วมังกร
– ดื่มน้ำให้มากๆ ไม่ควรจะดื่มน้อยกว่า 8-10 แก้วต่อวัน และควรจะดื่มน้ำ 1 แก้ว ก่อนการรับประทานอาหารทุกมื้อ
– ควรจะระวังน้ำตาลที่อาจจะแฝงมาในอาหารและเครื่องดื่ม น้ำตาลที่อยู่ในกาแฟเย็น หรือในน้ำอัดลมยี่ห้อโปรดปราน น้ำหวาน หรือน้ำผลไม้กล่อง ก็อาจจะเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้คุณมีรูปร่างที่อ้วนได้โดยไม่รู้ตัว
– ช่วงก่อนที่จะมีประจำเดือน ผู้หญิงบางคนนั้น อาจจะมีอาการความอยากอาหารที่ผิดปกติ ตัวดูบวมๆ หรือพุงดูยื่นๆ ซึ่งเป็นเพราะว่าระดับฮอร์โมนในร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงก่อนที่จะมีประจำเดือน ดังนั้นก็ควรระมัดระวังการรับประทานอาหารให้ดี หรือแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ด้วยการเลือกใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดรุ่นใหม่ที่มีส่วนประกอบของฮอร์โมนโดสที่ต่ำ ที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับฮอร์โมนธรรมชาติที่มีอยู่ในร่างกาย ซึ่งจะสมารถช่วยลดปัญหาอาการที่ไม่พึงประสงค์ก่อนที่จะมีประจำเดือนได้
– ควรจะออกกำลังกายให้ได้อย่างน้อย อาทิตย์ละ 4 ครั้ง ครั้งละประมาณ 30-45 นาที เป็นระยะเวลาต่อเนื่องกัน เพื่อจะทำให้ร่างกายสามารถเผาผลาญไขมันส่วนเกินได้มากขึ้น