ดื่มน้ำ น้ำดื่ม สุขภาพดี

ควรดื่มน้ำวันละกี่ลิตร ควรดื่มน้ำตอนใหนดี ถ้าดื่มมากหรือน้อยไปจะเป็นอย่างไร

Home / สุขภาพทั่วไป / ควรดื่มน้ำวันละกี่ลิตร ควรดื่มน้ำตอนใหนดี ถ้าดื่มมากหรือน้อยไปจะเป็นอย่างไร

ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว นั้น แก้วใหญ่หรือเล็กแค่ไหนกันนะ หรือที่บอกว่า ดื่มน้ำวันละ 2 ลิตรนั้น เพียงพอหรือเปล่า หลายคนที่สงสัยกับคำถามกับคำถามแบบนี้ ลองอ่าน

ควรดื่มน้ำวันละกี่ลิตร ควรดื่มน้ำตอนใหนดี

ดื่มน้ำวันละกี่ลิตร?

  • โดยทั่วไป ผู้หญิง ควรดื่มวันละ 2.2 ลิตร (ประมาณ 9 แก้ว)
  • ผู้ชาย ควรดื่มวันละ 3 ลิตร (ประมาณ 13 แก้ว)

อยากรู้ว่าจริงๆ เราควรดื่มน้ำวันละกี่ลิตร เช็คจากที่นี่ได้ค่ะ www.honestdocs.co

ดื่มน้ำตอนใหนดี ?

1 แก้ว ตื่นนอน เพื่อลดความเข้มข้นของเลีอดและช่วยกระตุ้นการทำงานของอวัยวะภายในให้ตื่นตัว

2 แก้ว 9-10 โมงเช้า ชำระของเสียออกจากร่างกาย

1/2 แก้ว ก่อนอาหาร 15 นาที ช่วยให้ระบบการย่อยดีขึ้น ผู้ที่ลดน้ำหนักสามารถดื่มน้ำ 1-2 แก้ว 30 นาทีก่อนมื้ออาหาร

1/2 แก้ว หลังอาหาร 40 นาที ช่วยระบบย่อยอาหาร แต่ไม่ควรดื่มน้ำเกิน 1 แก้ว เพราะจะไปเจือจางน้ำย่อยในกระเพาะอาหารและไม่ควรจิบน้ำไปทานข้าวไป

ระหว่างวันให้จิบน้ำตลอดวันเพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ

1 แก้ว ก่อนเข้านอน ช่วยหลีกเลี่ยงภาวะเส้นเลือดในสมองแตก หรือหัวใจวาย และช่วยชะล้างสิ่งตกค้างในลำไส้และกระเพาะอาหาร แต่ไม่ควรดื่มน้ำมากกว่า 1 แก้ว เพราะจะทำให้ไตทำงานหนักในระหว่างหลับ และตื่นมาปัสสาวะเป็นสาเหตุทำให้นอนหลับไม่สนิท

หน้าร้อนไม่ควรดื่มเครื่องดื่มประเภทใหน?

กาแฟ ชาหรือว่าแอลกอฮอล์ ถือว่าเป็นข้อห้ามในอากาศที่ร้อนมาก เพราะสิ่งเหล่านี้จะดึงน้ำออกไปจากร่างกาย เพราะถ้าเราดื่มกาแฟจะทำให้เราปัสสาวะบ่อย ในการปัสสาวะหนึ่งครั้งเราจะเสียน้ำไปประมาณ 200 มิลลิลิตร ดื่มกาแฟเท่าใหร่มันก็จะดึงน้ำออกไปเป็นสองเท่า ยิ่งดื่มมากยิ่งทำให้เสียน้ำมาก

การดื่มน้ำเย็นๆ ในอากาศที่ร้อนมากๆ พอดื่มเข้าไปร่างกายเราจะใช้เวลาในการปรับอุณหภูมิให้เท่ากับอุณหภูมิของร่างกายเพื่อที่จะดูดซึมเอาไปใช้ได้ดี แต่ถ้าอุณหภูมิมันปรับไม่ได้ จะทำให้ร่างกายดูดซึมน้ำได้แค่บางส่วนและน้ำก็จะออกไปทางระบบทางเดินอาหารและทางปัสสาวะ ทำให้ร่างกายเสียน้ำ และเกิดปากแห้ง ผิวแห้ง ปัสสาวะเหลืองขึ้นได้

สาเหตุที่ต้องดื่มน้ำ 2 ลิตรต่อวัน

ร่างกายจะใช้น้ำสำหรับกระบวนการเผาผลานต่างๆ ในร่างกายประมาณครึ่งลิตร และอีกครึ่งลิตรนั้นเราจะเสียไปกับน้ำที่มองไม่เห็น เช่น เหงื่อระเหยออกไป ส่วนอีก 1 ลิตร จะเป็นน้ำปัสสาวะที่เราจะต้องขับทิ้งในแต่วัน เพราะฉะนั้นเพื่อให้เพียงพอต่อการใช้งาน ปริมาณน้ำดื่มโดยประมาณควรจะเป็น 2 ลิตรต่อวัน แต่สำหรับบางคนซึ่งเสียน้ำไปมากกว่านั้น เช่นกรณี เสียเหงื่อเยอะ ทำงานกลางแจ้ง หรือว่าเล่นกีฬา ก็ต้องดื่มให้มากกว่านั้นเพื่อชดเชยกับสิ่งที่เสียไป

ความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับน้ำ

  • นมเป็นอาหารไม่ใช่น้ำดื่มและไม่ควรถือว่าการดื่มนมทดแทนการดื่มน้ำเปล่าได้
  • ผู้ที่ทานยาที่ระคายเคืยงต่อกระเพราะอาหารหรือยาปฎิชีวนะควรดื่มน้ำตามมากๆ
  • หากสังเกตุว่าปัสสาวะมีสีเข้มขึ้นอย่าลืมดื่มน้ำให้มากขึ้นด้วย
  • น้ำที่ดื่มควรเป็นน้ำเปล่าอุ่น หรือน้ำเปล่าธรรมดา เพราะน้ำเย็นทำให้ปัสสาวะบ่อย ไม่เหมือนการจิบน้ำอุ่นบ่อยๆ ทำให้ยืดเวลาในการเข้าห้องน้ำนานขึ้น

ถ้าดื่มน้ำมากหรือน้อยไปจะเป็นอย่างไร?

ของทุกกอย่างมากไปน้อยไปไม่ดีทั้งสิ้น เช่น บางคนบอกดื่มน้ำเยอะๆ แล้วดี ดื่มที 8-10 ลิตรต่อวันนั้น ก็มีผลเสียเช่นกัน เพราะว่าจะทำให้สมดุลเกี่ยวกับน้ำและเกลือแร่ของร่างกายมันผิดไปจากที่ควร ซื่งอาจจะส่งผลทำให้เกิดอาการจากการที่มีเกลือแร่ต่ำได้ อย่างเช่น อาจจะมีอาการคลื่นใส้ อาเจียน เวียนศรีษะได้ เป็นต้น

สำหรับคนที่ดื่มน้ำน้อยไป ปัญหาก็คือ น้ำก็ไม่เพียงพอที่จะเอาไปใช้ในกระบวนการเผาผลานของร่างกาย เพราะฉะนั้นระบบต่างๆ ของร่างกายก็ไม่ดี รวมถึงอาจจะเพิ่มความเสี่ยงในการทำให้เกิดกระเพาะปัสสาวะอักเสบ ทำให้เกิดโรคนิ่วต่างๆได้ เพราะฉะนั้นการดื่มน้ำให้เพียงพอ และเหมาะสมในแต่ละวันนั้น จะเป็นเรื่องดีต่อสุขภาพ

สูตรการดื่มน้ำ

คือให้เอาน้ำหนักตัวของเรา เป็นกิโลกรัม คูณด้วย 2.2 เอาผลลัพธ์มาหารด้วย 2 แล้วคูณด้วย 30 ก็จะได้ปริมาณน้ำที่เราควรดื่มเป็นหน่วยมิลลิลิตร

ตัวอย่างเช่น น้ำหนัก 60 กิโลกรัม

– (60 X 2.2 X 30)/2 = 1980 มิลลิลิตร หรือเท่ากับ 2 ลิตร

– 1 ลิตรเท่ากับน้ำ 5 แก้ว ดังนั้นต้องดื่มน้ำประมาณ 10 แก้วต่อวัน

ร่างกายคนเราประกอบด้วยน้ำเกือบ70 เปอร์เซ็นต์ ในเลือดประกอบด้วยน้ำ 90 เปอร์เซ็นต์จึงควรดื่มน้ำให้เพียงพอ มิฉะนั้นเลือดก็จะข้นจะหนืดการไหลเวียนก็จะไม่สะดวก อุดตันอยู่ในเส้นเลือด

ที่มา http://www.medicthai.com/

บทความแนะนำ