กลิ่นนี้มีที่มา ถามถึงที่มาของกลิ่น ที่รวยรินออกมาจากปากมากจากคุณหมอ ฟังแล้วต้องตบอกผาง เพราะท่านตอบมาว่า.. นานาสารพันเชียวหนูจ๋า ทั้งกลิ่นจากอาหารที่เรากินเข้าไป, เศษอาหารที่ค้างคาอยู่ตามซอกฟัน, แบคทีเรียในหมากฝรั่ง, การกินอาหารไม่ถูกหลัก (อันนี้พวกสาวไดเอ็ทต้องระวัง), การติดเชื้อทางระบบหายใจ, ระบบย่อยอาหารเกิดอาการผิดปกติ, การเสื่อมและผุพังของเนื้อฟัน รวมถึงกลิ่นจากการสูบบุหรี่ แต่จะขอบอกไว้ให้รู้กันทั่วว่า ตัวการร้ายอันดับหนึ่ง คือแบคทีเรียไม่รักดี ที่ทั้งเกิดและอาศัยอยู่บนลิ้นของเราๆท่านๆ นั่นเอง
วิธีกำจัดกลิ่นปาก แบบง่ายๆ
แบคทีเรียชนิดนี้มีอยู่ในปากของทุกคน มีหน้าที่อะไรไม่รู้แน่ แต่ชอบเปลี่ยนตัวเองเป็นสารประกอบซัลเฟอร์ (กำมะถัน) ซึ่งสารประกอบตัวนี้พอมีมากๆเข้าก็จะทำให้เกิดกลิ่นปากตามมา ดังนั้น ถ้าไม่นับกรณีของอาการป่วยต่างๆ การที่บางคนมีกลิ่นปาก แต่บางคนไม่มี จึงขึ้นอยู่กับปริมาณของเจ้าแบคทีเรียตัวที่ว่านี่แหละเป็นสำคัญ อย่างที่บอกไว้ว่า กลิ่นปากเกิดจากแบคทีเรียที่อาศัยอยู่บนลิ้น จึงไม่มีทางกำจัดมันออกไปได้ (นอกจากจะตัดลิ้นทิ้ง) แต่เราก็ยังมีวิธีที่จะช่วย ไม่ให้เจ้าตัวร้ายก่อการได้สะดวกโยธินนัก ดังนี้ค่ะ
– อย่าปล่อยให้ปากแห้ง
เพราะเมื่อปากแห้งความเข้มข้นของแบคทีเรียในปากจะเพิ่มมาก ทำให้เกิดกลิ่นปากได้ง่าย
– ดื่มน้ำมากๆ
ช่วยล้างแบคทีเรียออกจากน้ำลาย
– แปรงฟันทุกครั้งหลังมื้ออาหาร
และอย่าลืมแปรงด้านบนของลิ้น อันเป็นที่เกิดของแบคทีเรียด้วย
– ใช้ไหมขัดฟันวันละ 2-3 ครั้ง
– บ้วนปากด้วยน้ำเปล่าก็ยังดี
ถ้าไม่สะดวกจะแปรงฟัน ให้บ้วนปากด้วยน้ำเปล่าหรือน้ำยาบ้วนปาก
– เคี้ยวหมากฝรั่งชนิดที่ไม่มีน้ำตาล
– เคี้ยวใบผักชีฝรั่งหรือกานพลูหลังมื้ออาหาร
– งดอาหารกลิ่นแรง
เช่น กระเทียม,หอมใหญ่,พริกไทย และชีส
– หลีกเลี่ยงการดื่มกาแฟ
หรือเครื่องดื่มอื่นๆ ที่ทำให้เกิดกลิ่นปาก
– กินอาหารให้ครบหมู่
แม้ว่าคุณจะกำลังลดความอ้วนอยู่ก็ตาม
– เลิกสูบบุหรี่
– ตรวจสุขภาพฟันสม่ำเสมอ
ที่อ่านมาทั้งหมดนี้ ไม่ยากใช่ไหมคะ หลักสำคัญๆ คือ อย่าให้ปากแห้ง ดื่มน้ำบ่อยๆ อย่างน้อยช่วยได้จริงๆ ค่ะ