เชื่อว่าหลายคนในที่นี้ โดยเฉพาะสาว ๆ ทั้งหลายกลัวการกินโกโก้ เพราะคิดว่ามันทำให้อ้วน แต่จริง ๆ แล้วโกโก้ไม่ได้ทำให้อ้วนอย่างที่คิด แถมยังช่วยควบคุมน้ำหนัก และยังมีประโยชน์อีกเพียบ ลองไปดู 8 ประโยชน์ของโกโก้ อร่อยแถมดีต่อสุขภาพ ที่เราเอามาฝากกันก่อนดีกว่า อาจจะเปลี่ยนใจกัน และสำหรับใครที่สงสัยว่าโกโก้ กับ ช็อคโกแลต แตกต่างกันยังไง? วันนี้เราก็มีคำตอบมาให้แล้ว ไปดูกันได้เลยจ้า
8 ประโยชน์ของโกโก้
โกโก้ vs ช็อคโกแลต
- ช็อกโกแลต จะได้มาจาก Cocoa Liquor ที่ถูกทำให้เป็นผงโดย ไม่แยกไขมันโกโก้ออกมา หรือรีดไขมันออกไปเพียงเล็กน้อย ทำให้ผงช็อกโกแลตนี้มีปริมาณไขมันมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์
- โกโก้ จะได้มากจาก Cocoa Liquor ที่ถูกทำให้เป็นผงโดย รีดไขมันโกโก้ออกไปจนหมด หรือเกือบหมด ที่วางขายอยู่ทั่วไปเป้นโกโก้ที่มีไขมัน 0 – 25 เปอร์เซ็นต์
1. มีสารต้านอนุมูลอิสระ
โกโก้อุดมไปด้วยโพลีฟีนอล (Pholyphenols) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ มักพบในผัก ผลไม้ ชา ช็อคโกแลต และไวน์ ช่วยลดการอักเสบ ช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดี ลดความดันโลหิต และยังช่วยควบคุมคอเลสเตอรอลและน้ำตาลในเส้นเลือดอีกด้วย แต่กระบวนการในการแปรรูปเป็นช็อคโกแลตหรือผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ก็อาจจะทำให้โพลีฟีนอล (Pholyphenols) ลดลงได้
2. ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ
ฟลาโวนอยด์ในโกโก้ จะไปช่วยเพิ่มไนตริกออกไซด์ ที่มีส่วนช่วยเรื่องเลือกและหัวใจ ช่วยระบบไหลเวียนเลือดทำงานได้ดี ช่วยขยายหลอดเลือดลดความตึงเครียดของหลอดเลือด ช่วยลดคอเลสเตอรอลตัวร้าย (LDL) จึงส่งผลดีต่อหัวใจ ลดความเสี่ยงโรคเกี่ยวกับหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง (อัมพฤกษ์อัมพาต)
3. บำรุงสมอง
ฟลาโวนอยด์ในโกโก้จะช่วยเรื่องการทำงานของระบบประสาทและสมอง ช่วยป้องกันการเสื่อมสภาพของเซลล์สมอง ช่วยเรื่องความจำ ความคิด การตัดสินใจ การรับรู้ และสามารถป้องกันโรคอัลไซเมอร์ในผู้สูงอายุได้
4. ช่วยให้อารมณ์ดี
จากการศึกษาหลายการศึกษาพบว่า การกินโกโก้ส่งผลดีต่ออารมณ์ และภาวะซึมเศร้า ช่วยลดความเครียด และรทำให้ผ่อนคลาย คาดว่าในโกโก้อาจจะมีสารที่ไปกระตุ้นให้สมองหลั่ง สารโดปามีน และสารเซโรโทนิน (สารแห่งความสุข) จึงทำให้คนเรามีอารมณ์ดีและมีความสุขหลังได้ดื่มหรือกิน
5. ลดความเสี่ยงโรคเบาหวาน
หลายคนรู้กันดีว่าช็อคโกแลต ถ้ากินมาก ๆ จะไปเพิ่มระดับน้ำตาลในร่างกาย แต่ไม่ใช่สำหรับโกโก้และดาร์กช็อคโกแลต เพราะสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นเบาหวาน และช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ฟลาโวนอยด์ ในโกโก้จะช่วยชะลอการย่อยและการดูดซึมคาร์โบไฮเดรตในลำไส้ โดยจะไปกระตุ้นการหลั่งอินซูลิน ที่เป้นฮอร์โมนที่ควบคุมการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรต
6. ควบคุมน้ำหนัก
สารโพลีฟีนอล (Polyphenol) ในโกโก้ นอกจากจะช่วยเรื่องการไหลเวียนเลือดแล้ว ยังซึ่งเป็นช่วยเร่งการเผาผลาญในร่างกายด้วย จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้โกโก้เหมาะกับคนที่ลดน้ำหนัก จากการศึกษาพบว่า คนที่กินช็อคโกแลตบ่อยกว่ามีค่าดัชนีมวลกาย (BMI) ต่ำกว่าคนที่ไม่กินช็อคโกแลต แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องเลือกกินให้ถูกวิธีด้วย
7. รักษาโรคหอบหืด
ในโกโก้มีสารธีโอโบรมีน (Theobromine) ที่ช่วยบรรเทาอาการไอเรื้อรัง และสารธีโอฟิลลีน (Theophylline) ที่ช่วยช่วยขยายปอด ให้หายใจได้สะดวกมากยิ่งขึ้น จากการทดลองกับสัตว์พบว่า โกโก้สามารถช่วยรักาาอาหารหืดหอบได้ ช่วยขยายทางเดินหายใจ และลดการหนาตัวของเนื้อเยื่อในระบบทางเดินหายใจ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นยังไม่มีการศึกษาเรื่องนี้กับมนุษย์
8. ฟันสวย ผิวใส
โกโก้ดีต่อสุขภาพฟัน สามารถป้องกันแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของฟันผุ แถมยังดีต่อสุขภาพผิว ช่วยให้ผิวแข็งแรง ฟลาโวนอยด์จะช่วยป้องกันรังสียูวีจากแสงอาทิตย์ และช่วยคงความชุ่มชื้นให้ผิว จากงานวิจัยในวารสารโภชนาการของยุโรปพบว่า การกินหรือดื่มโกโก้เป็นเวลานาน 12 สัปดาห์ ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นขึ้น 25% เลยทีเดียว
ข้อควรระวัง!
การกินโกโก้ให้ได้ผลดีควรจะกินโกโก้ 100% ผสมกับน้ำเปล่า ผลิตภัณฑ์โกโก้แปรรูปที่วางขายอยู่ทั่วไป ไม่ว่าจะเป็น ช็อคโดแลตแท่ง ขนม เบเกอรี่ต่าง ๆ ล้วนแล้วแต่มีส่วนผสมของน้ำตาล ครีม นมต ซึ่งโกโก้ที่เรากินเข้าไปก็จะไม่ใช่โกโก่้ 100% อีกต่อไปแล้ว เพราะฉะนั้นก็ควรจะเลือกกินให้ดี ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นเสียสุขภาพแทนนะคะ
ขอบคุณข้อมูลจาก: healthline
Writtn by: Typrn
บทความแนะนำ
- เช็กหน่อย เราเป็นไบโพลาร์หรือเปล่า ? พร้อมวิธีรับมือ กับอารมณ์แปรปรวนสุดขั้ว
- นาฬิกาชีวิต กับภาวะซึมเศร้า – ผลการวิจัยชี้ คนนอนดึก มักมีอาการซึมเศร้า
- ผลวิจัยชี้ นอนหลับไม่พอ-อดนอน ส่งผลร้ายต่อร่างกาย มีความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ
- 6 ข้อผิดพลาดของ มือใหม่หัดวิ่ง รู้แล้วแก้ด่วน
- ประโยชน์ของ เม็ดแมงลัก – ประโยชน์เพียบ ! แต่อาจให้โทษ ถ้ากินไม่ถูกวิธี