ใครไม่เคยเป็นคงไม่เข้าใจ ว่าการนอนไม่หลับเนี่ยมันทรมานขนาดไหน ไม่ง่วงเลยไม่หลับก็ว่าแย่แล้ว แต่บางทีง่วงแทบตายแล้วนอนไม่หลับเนี่ย สุดจะทนจริง ๆ! วันนี้เรามี 5 สาเหตุที่ทำให้นอนไม่หลับ กระสั๊บกระส่ายยย มาฝากกัน ใครที่ยังหาต้นตอสาเหตุของอาการนอนไม่หลับไม่ได้ ลองไปดูปัจจัยเหล่านี้กันได้เลย
5 สาเหตุที่ทำให้นอนไม่หลับ
ติดโซเชียล
ก่อนนอนต้องเช็กโซเชียลไล่ตอบไลน์ ดูความเป็นไปของเพื่อนในเฟซ ส่องรูปดาราในไอจี แต่รู้มั้ยว่าแสงสีฟ้าจากหน้าสมาร์ทโฟน แท็บเล็ตต่าง ๆ นอกจากจะส่งผลเสียต่อสายตาของเราแล้ว ยังทำให้สมองส่วนไพเนียลแกลนด์หยุดหลั่งเมลาโทนินที่จะหลั่งออกมาเฉพาะในเวลากลางคืน และทำให้ร่างกายรู้สึกง่วง ทำให้เราไม่ง่วง ไม่อยากนอน หรือนอนหลับไปแต่หลับไม่สนิท ส่งผลเสียตามมาอีกมากมาย
นอกจาจากการวิจัยแนะนำให้หลีกเลี่ยงการใช้อุปกรณ์อิเลคทรอนิคส์ 90 นาทีก่อนนอน เพื่อการนอนหลับที่ดี
เครียด
อยู่ ๆ ก็มีเรื่องราวให้นอนไม่หลับ… ไม่ว่าจะเครียดเรื่องงาน ทะเลาะกับแฟน คิดถึงคนที่แอบชอบ วันรุ่งขึ้นมีสอบ หรือปัญหาร้อยแปดพันเก้าอื่น ๆ ที่ทำให้คุณกังวลและเครียด ก็อาจะเป็นสาเหตุที่ทำให้คุณนอนไม่หลับได้เช่นกัน ถ้าใครรู้ตัวว่ามีความรู้สึกเหล่านี้ ก่อนนอนก็ลองลุกขึ้นมานั่งสมาธิผ่อนคลายจิตใจ หรือหาเพลงเบา ๆ ฟัง หรือหาวิธีจัดการกับความเครียดอื่น ๆ แต่ถ้าไม่สามารถจัดการเองได้ ก็คงต้องรีบไปพบจิตแพทย์นะจ๊ะ
พฤติกรรมการนอน
เมื่อวานนอนเที่ยงคืน วันนี้ตีสาม พรุ่งนี้ว่าจะนอนเร็วสักสี่ทุ่มกำลังดี… การนอนไม่เป็นเวลาแบบนี้นี่แหละที่ไม่ดี สิ่งที่ควรจะทำก็คือ ปรับตารางเวลานอนให้เป็นเวลา สร้างวินัยให้กับสมอง จะทำให้ร่างกายง่วงไปเองเมื่อถึงเวลานอน ถ้าถึงเวลานอนแล้วยังไม่ง่วงก็ไม่ต้องฝืนไม่ต้องกดดันตัวเอง เพราะจะทำให้เครียดไปอีก แล้วก็จะยิ่งนอนไม่หลับไปอีก ทางที่ดีลองหาอะไรเบา ๆ ทำ และเมื่อง่วงก็ให้รีบเข้านอนทันที
ลองกำหนดเวลานอนเอาไว้ และทำให้ได้ทุกวัน คลาดเคลื่อนได้ไม่เกิน 30 นาที เช่น กำหนดไว้ว่า 5 ทุ่มต้องเข้านอน หมายความว่าคุณสามารถเข้านอนได้ภายในเวลา 22.30 – 23.30 น. เป็นต้น
อาหารการกิน
นอกจากการปล่อยให้ท้องว่างหิวโซจนนอนไม่หลับแล้ว การกินอิ่มเกินไป กินมื้อดึก หรือกินตอนใกล้เข้านอนจะทำให้คุณรู้สึกอึดอัดไม่สบายตัว ทั้งท้องอืด มีแก๊สในกระเพาะอาหาร และจะทำให้ความอ้วนถามหา และสิ่งที่ตามมาก็อาจจะเป็นภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ ทำให้ร่างกายไม่ได้หลับอย่างเต็มที่ และเมื่อตื่นมาตอนเช้าคุณก็จะรู้สึกเพลีย รู้สึกนอนไม่เต็มอิ่ม
นอกจากนี้คนที่เป็นกรดไหลย้อนก็อาจจะเกิดอาการแสบร้อนกลางอก ส่งผลให้นอนไม่หลับได้เช่นกัน
หลายคนเลือกที่จะดื่มกาแฟเพื่อให้หายง่วง ก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไร แต่ก็ไม่ควรจะดื่มมากเกินไป และไม่ควรดื่มกาแฟหลังบ่ายสามโมง เพราะจะลากยาวไปทำให้เรานอนไม่หลับได้ และพอตื่นเช้ามาก็จะง่วงอีกเพลียอีก ทำให้ต้องเติมกาแฟเข้าไปอีก ซดกาแฟวนไปค่ะ!
นอกจากกาเฟอีนแล้ว การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อนนอนก็มีส่วนทำให้นอนไม่หลับได้เช่นกัน
ไม่ออกกำลังกาย
สาเหตุที่การออกกำลังกายช่วยเรื่องการนอนหลับก็คือ การออกกำลังกายเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยคลายเครียดได้ดี แต่ดีกว่านั้นคือมันจะทำให้คุณหลับสบายไร้กังวลเพราะความเพลีย เพราะเมื่อออกกำลังกายเราต้องใช้พลังงานมากในช่วงเวลาสั้น ๆ เมื่อร่างกายเหนื่อยล้าก็จะทำให้หลับได้ง่าย ๆ แบบไม่ต้องนอนนับแกะกันเลย
แต่ก็มีบางคนที่ออกกำลังกายแล้วนอนไม่หลับ นั่นอาจเป็นเพราะ ออกกำลังกายตอนดึก หรือตอนใกล้นอน เพราะร่างกายจะหลั่งสารกระตุ้นให้ร่างกายตื่นตัว และยิ่งทำให้หลับยากกว่าเดิม แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้จริง ๆ แนะนำให้ใช้เวลาในการคูลดาวน์ให้นานขึ้น หรือการอาบน้ำอุ่นก็พอช่วยได้เหมือนกัน
ขอบคุณข้อมูลจาก: lifehack
Written by: Typrn
บทความที่เกี่ยวข้อง
