แครอทอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์มากมาย อาทิ เบตาแคโรทีน วิตามินเอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินซี วิตามินอี ธาตุแคลเซียม ฯลฯ เป็นผักที่หาทานได้ง่าย นำมาประกอบอาหารได้หลากหลาย อยู่ในอาหารจานหลักหลายชนิด และยังสามารถทำเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพอย่างน้ำแครอทปั่นได้อีกด้วย
10 คุณประโยชน์เน้นๆ
วันนี้แคมปัส-สตาร์มี 10 คุณประโยชน์เน้นๆ ของเจ้าแครอท มาฝากกันค่ะ ประโยชน์เยอะขนาดนี้ต้องหาแครอทมาติดตู้เย็นไว้ในบ้านบ้างแล้วล่ะ
ประโยชน์จากเบต้าแคโรทีน
แครอทอุดมไปด้วย ‘เบต้าแคโรทีน’ ทำหน้าที่เสมือนเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) โดยปกติร่างกายสามารถเปลี่ยนเบต้าแคโรทีนให้ไปเป็นวิตามินเอได้ ซึ่งวิตามินเอช่วยบำรุงสายตา บำรุงผิว จากการศึกษาพบว่าเบต้าแคโรทีนยังช่วยป้องกันการเกิดโรคต่างๆ ด้วย อาทิ โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน โรคไฟโบรมัยอัลเจีย เป็นต้น
ช่วยในการระบบย่อยอาหาร
ร่างกายต้องการแร่ธาตุ วิตามิน ใยอาหาร และเป็นไซม์ที่จะเป็นในกระบวนการย่อยอาหาร แครอทมีเส้นใยอาหารที่ช่วยผลักดันอาหารเข้าสู่ระบบย่อยอาหาร ส่วนเบต้าแคโรทีนจะเปลี่ยนเป็นวิตามินเอ ซึ่งจะช่วยเพิ่มการทำงานของเม็ดเลือดขาว เพื่อต่อสู้กับเชื้อโรคที่เกิดจากอาหาร นอกจากนี้แครอทยังมีแคลเซียมและโพแทสเซียม ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่ช่วยส่งเสริมการเคลื่อนย้ายอาหารผ่านทางเดินอาหารได้สะดวกมากขึ้น
ปรับสมดุลความเป็นด่างในร่างกาย
การทานอาหารที่มีกรดมากเกินไปจะส่งผลเสียต่อสุขภาพ แครอทสามารถช่วยปรับสมดุล pH ของร่างกายให้อยู่ในระดับปกติได้ ร่างกายต้องการอาหารทั้งที่เป็นกรดและเป็นด่างเพื่อความสมดุล แต่อาหารในปัจจุบันมีความเป็นกรดสูง ทำให้ควรที่จะทานอาหารที่เป็นด่างเพิ่มขึ้นคิดเป็น 80% ของการทานอาหารต่อวัน
ลดความเสี่ยงโรคไต
แร่โพแทสเซียมจะทำงานร่วมกับโซเดียม เพื่อปรับสมดุลของระดับของเหลวภายในร่างกาย ซึ่งลดความเสี่ยงของโรคไตและความดันโลหิตสูง แต่เราได้รับแร่ธาตุโซเดียมมากเกินไป เนื่องมาจากอาหารแปรรูปในปัจจุบัน ดังนั้นจึงควรทานแครอทเพื่อให้ระดับของโพแทสเซียมและโซเดียมมีปริมาณเท่าๆ กัน
ช่วยดูแลสุขภาพฟัน
แครอทสามารถช่วยรักษาสุขภาพเหงือกและฟันได้หลายวิธี เริ่มจากการเคี้ยวเปลือกแครอทเพื่อลดและกำจัดแบคทีเรียที่ถูกสะสมในช่องปาก การทานแครอทเพื่อกระตุ้นการผลิตน้ำลาย ซึ่งจะช่วยกักเก็บแบคทีเรียไว้ และยังช่วยปรับสมดุลค่า pH ในช่องปากอีกด้วย
ช่วยรักษาบาดแผล
วิตามินซีและเบต้าแคโรทีน ในแครอทสามารถช่วยเร่งการรักษาบาดแผลได้ เพราะวิตามินซีเกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกันและการผลิตคอลลาเจน ซึ่งเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของผิวหนัง ส่วนเบต้าแคโรทีนจะช่วยลดการอักเสบของผิวหนัง ซึ่งจะช่วยรักษาสมานแผลได้เร็วขึ้น
Phytonutrients
Phytonutrients (ไฟโตนิวเทรียน) เป็นสารเคมีที่มีฤทธิ์ทางชีวภาพ พบเฉพาะในพืชและมีประโยชน์มากมาย ไฟโตนิวเทรียนที่พบในแครอทเรียกว่า ‘ฟอคารินอล (falcarinol)’ ซึ่งสามารถลดความเสี่ยงของการเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่และมีประโยชน์ต่อลำไส้ใหญ่อย่างมาก แต่จริงๆ แล้วไฟโตนิวเทรียนท์ (รวมสารต้านอนุมูลอิสระ) ที่อยู่ในแครอทช่วยลดความเสี่ยงของมะเร็งได้แทบทุกชนิด
ลดความเสี่ยงโรคเบาหวาน
แครอทมีสารต้านอนุมูลอิสระกลุ่มหนึ่งที่เรียกว่า ‘Carotenoids’ ซึ่งช่วยในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ดังนั้นแครอทที่อุดมไปด้วยแคโรทีนอยด์สามารถลดความเสี่ยงของการเป็นโรคเบาหวานประเภทที่ 2 ได้
ช่วยกำจัดไขมันเลว
ไฟเบอร์ นอกจากจะช่วยในเรื่องกระบวนการย่อยอาหารแล้ว ยังมีส่วนช่วยในการกำจัดไขมัน LDL (Low Density Lipoprotein) หรือไขมันเลว เป็นไขมันที่ไม่ดีต่อร่างกาย ทำให้ลดการเกิดการอุดตันในเส้นเลือดและมีลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ
สร้างเซลล์ใหม่/ชะลอการเสื่อมสภาพของเซลล์
สารอาหารในแครอท อาทิ วิตามินเอ วิตามินซี เบต้าแคโรทีน และสารต้านอนุมูลอิสระ มีส่วนช่วยในการสร้างเซลล์ใหม่และชะลอการเสื่อมสภาพของเซลล์ ซึ่งเป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นตลอดเวลา ช่วยให้สุขภาพผมแข็งแรง ผิวพรรณเปล่งปลั่งดูอ่อนวัย ลดการเกิดสิว
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก foodprevent.com
บทความแนะนำ
- นายแพทย์ฯ ม.ธุรกิจบัณฑิตย์ ชี้ฝุ่นละออง PM 2.5 อันตราย น้ำบรอกโคลีปั่น ช่วยขับสารพิษได้
- 8 ประโยชน์ของโกโก้ อร่อยแถมดีต่อสุขภาพ | โกโก้ กับ ช็อคโกแลต ต่างกันยังไง?
- ประโยชน์ของ มันแกว หนึ่งในผลไม้ควบคุมน้ำหนักตัวเด็ด
- ประโยชน์ขององุ่น | ป้องกันความเสื่อมประสาทตา ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ ฯลฯ
- ประโยชน์ของแซลมอน – แซลมอนจะช่วยเยียวยาเรา ทั้งตัวและหัวใจ
- ประโยชน์ดีๆ ของ กีวี (Kiwifruit) ผลไม้สีเขียวเปรี้ยวจี๊ด ไฟเบอร์เยอะมาก